แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยที่ 1 ได้มอบหมายให้ ส. เป็นตัวแทนในการก่อสร้างและสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์ด้วย จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดในฐานะเป็นตัวการ และจำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในฐานะหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิด แม้โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นตัวการและ ส. เป็นตัวแทนจำเลยที่ 1ในการซื้อสินค้าจากโจทก์ โจทก์ก็นำสืบในข้อนี้ได้ เพราะเป็นการนำสืบอธิบายข้อเท็จจริงในรายละเอียดเนื่องจากในการติดต่อทำสัญญาซื้อขายกันอาจกระทำโดยตนเองหรือโดยมีตัวแทนไปติดต่อทำสัญญาซื้อขายแทนก็ได้ และศาลวินิจฉัยปัญหาข้อนี้ได้ไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ได้สั่งซื้อดินลูกรังและหินประเภทต่าง ๆ จากโจทก์รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 519,090 บาท โจทก์ได้ส่งสินค้าให้แก่จำเลย และได้ขอเก็บเงินจากจำเลย แต่จำเลยขอผัดผ่อนต่อมาจำเลยที่ 1 ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ 100,000 บาท และจำเลยที่ 1สั่งซื้อเหล็กในนามของตนจากบุคคลอื่นส่งให้แก่โจทก์เพื่อหักหนี้คิดเป็นเงิน 14,490 บาท และ 30,590 บาท ตามลำดับ รวมเป็นเงินที่จำเลยที่ 1 ชำระหนี้ให้แก่โจทก์แล้วทั้งสิ้น 145,080 บาทคงค้างชำระจำนวน 374,010 บาท โจทก์ทวงถามแล้วจำเลยทั้งสองไม่ชำระ ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 374,010 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยทั้งสองไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์มาก่อน หนี้ที่โจทก์ฟ้องเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นระหว่างโจทก์กับนายสุขสวัสดิ์ เกษโกทิน ซึ่งเป็นผู้รับจ้างจากจำเลย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินให้แก่โจทก์จำนวน 382,079.39 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ7.5 ต่อปี ในต้นเงิน 374,010 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระให้แก่โจทก์เสร็จ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 374,010 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5ต่อปี นับแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2529 ซึ่งเป็นวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญารับจ้างปรับปรุงและซ่อมแซมถนนกับกองทัพอากาศ จำเลยที่ 1 ได้แต่งตั้งนายสุขสวัสดิ์ เกษโกทินเป็นนายงาน นายสุขสวัสดิ์ได้สั่งซื้อดินลูกรังและหินประเภทต่าง ๆจากโจทก์ไปใช้ในงานปรับปรุงและซ่อมแซมถนนและยังชำระราคาวัสดุดังกล่าวให้โจทก์ไม่ครบตามจำนวนที่โจทก์ฟ้อง ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองมีว่า จำเลยทั้งสองจะต้องรับผิดชำระเงินให้โจทก์ตามฟ้องหรือไม่ นายบัญชา ตั้งทวีวัฒนกุลพยานโจทก์ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของโจทก์เบิกความว่า สัญญารับเหมาก่อสร้างระหว่างจำเลยที่ 1 กับกองทัพอากาศ ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.7 หนังสือแต่งตั้งนายสุขสวัสดิ์เป็นนายงานปรากฏตามเอกสารหมาย จ.8 นายบัญชาเคยพบจำเลยที่ 2 ผู้จัดการห้างจำเลยที่ 1 โดยการแนะนำของนายสุขสวัสดิ์ จำเลยที่ 2บอกนายบัญชาว่า นายสุขสวัสดิ์เป็นตัวแทนของห้างจำเลยที่ 1สามารถสั่งซื้อสินค้าในนามห้างจำเลยที่ 1 ได้ ในการชำระค่าวัสดุนายสุขสวัสดิ์จะออกเช็คส่วนตัวให้โดยจำเลยที่ 1 จะโอนเงินมาเข้าบัญชีของนายสุขสวัสดิ์ ส่วนพยานจำเลยทั้งสองนั้น จำเลยที่ 2ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 เบิกความยอมรับว่าเอกสารหมาย จ.7 เป็นสัญญาที่จำเลยที่ 1 รับเหมาก่อสร้างกับกองทัพอากาศและเอกสารหมาย จ.8 เป็นเอกสารแต่งตั้งนายสุขสวัสดิ์เป็นนายงานจริง แต่นายสุขสวัสดิ์ไม่ใช่ตัวแทนของจำเลยที่ 1นายสุขสวัสดิ์เป็นผู้รับเหมาช่วงเกี่ยวกับงานดินไปจากจำเลยที่ 1ตามสัญญาระหว่างจำเลยที่ 1 กับนายสุขสวัสดิ์ เอกสารหมาย ล.22เห็นว่า จำเลยที่ 1 โอนเงินเข้าบัญชีของนายสุขสวัสดิ์ซึ่งจำเลยที่ 2 เบิกความยอมรับว่าจำนวนเงินที่โอนมานั้นมีมากกว่าเงินที่นายสุขสวัสดิ์จะได้รับตามสัญญาเอกสารหมาย ล.22น่าเชื่อว่าเป็นเงินที่โอนมาเพื่อใช้จ่ายในการดำเนินงาน ไม่ใช่ค่าจ้างตามเอกสารหมาย ล.22 แต่อย่างใด และเมื่อได้ตรวจสัญญารับเหมาก่อสร้างระหว่างจำเลยที่ 1 กับกองทัพอากาศเอกสารหมาย จ.7กับหนังสือแต่งตั้งนายสุขสวัสดิ์เป็นนายงานเอกสารหมาย จ.8แล้วปรากฏตามข้อ 11 ของเอกสารหมาย จ.7 ว่า จำเลยที่ 1 จะต้องควบคุมงานที่รับจ้างตลอดเวลาที่งานยังไม่แล้วเสร็จ หรือจะมอบหมายให้ผู้อื่นเป็นผู้ควบคุมงานแทนตนก็ได้ ในกรณีเช่นนี้จำเลยที่ 1จะต้องแจ้งชื่อผู้ที่ได้รับมอบหมายนั้นให้กองทัพอากาศทราบเป็นหนังสือ และผู้ควบคุมงานแทนจำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดชอบแทนจำเลยที่ 1ทุกประการ คำสั่งต่าง ๆ ที่กองทัพอากาศแจ้งแก่ผู้ควบคุมงานถือว่าได้แจ้งแก่จำเลยที่ 1 แล้ว ส่วนเอกสารหมาย จ.8 เป็นหนังสือของจำเลยที่ 1 แจ้งต่อเจ้ากรมช่างโยธาทหารอากาศ ว่าจำเลยที่ 1ได้แต่งตั้งนายสุขสวัสดิ์เป็นนายงานของจำเลยที่ 1 ตามสัญญาจ้างเอกสารหมาย จ.7 อันเป็นการปฏิบัติตามสัญญาจ้างดังกล่าวข้อ 11ของจำเลยที่ 1 ต่อกองทัพอากาศนายสุขสวัสดิ์จึงเป็นผู้ควบคุมงานและรับผิดชอบงานแทนจำเลยที่ 1 การปฏิบัติงานของนายสุขสวัสดิ์ต้องถือว่าเป็นการปฏิบัติงานของจำเลยที่ 1 ต่อกองทัพอากาศและข้อ 10ของสัญญาจ้างเอกสารหมาย จ.7 มีว่า จำเลยที่ 1 จะไม่เอางานทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งสัญญานี้ไปให้ผู้อื่นรับจ้างช่วงอีกทอดหนึ่งโดยมิได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากกองทัพอากาศโดยเด็ดขาด พยานหลักฐานโจทก์จึงฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 ได้มอบหมายให้นายสุขสวัสดิ์เป็นตัวแทนในการก่อสร้างและสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์ด้วย จำเลยที่ 1จึงต้องรับผิดในฐานะเป็นตัวการ และจำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในฐานะหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิด แม้โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นตัวการและนายสุขสวัสดิ์เป็นตัวแทนจำเลยที่ 1 ในการซื้อสินค้าจากโจทก์ โจทก์ก็สามารถนำสืบในข้อนี้ได้ เพราะเป็นการนำสืบอธิบายข้อเท็จจริงในรายละเอียดเนื่องจากในการติดต่อทำสัญญาซื้อขายกันอาจกระทำโดยตนเองหรือโดยมีตัวแทนไปติดต่อทำสัญญาซื้อขายแทนก็ได้ และศาลวินิจฉัยปัญหาข้อนี้ได้ไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน