คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 888/2465

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดิน ,โฉนดยกให้ วิธีพิจารณาอำนาจฟ้อง ฟ้องแล้วฟ้องอีก

ย่อยาว

คดีเดิม โจทย์ได้ฟ้องจำเลยครั้งหนึ่งแล้วว่า โจทย์ยืมเงินของจำเลยไป ๒๐๐ บาท เอาที่นากับโฉนดมาเปนประกันไว้กับจำเลย ๒ แปลง ๆ หนึ่งมีชื่อโจทย์เปนเจ้าของ อีกแปลงหนึ่งมีชื่อพระภิกษุภูเปนเจ้าของ แลให้จำเลยทำนาต่างดอกเบี้ยครั้นโจทย์นำเงินมาใช้จำเลย ๆ ไม่ยอมคืนที่นาแลโฉนดทั้ง ๒ แปลงให้โจทย์ คดีถึงที่สุดศาลฎีกาวินิจฉัยให้จำเลยยอมรับเงิน ๒๐๐ บาท แลคืนโฉนดที่มีชื่อโจทย์ให้โจทย์ ส่วนที่นาแลโฉนดอีกแปลงหนึ่งที่มีชื่อพระภิกษุภูเปนเจ้าของนั้น ต้องให้พระภิกษุภูมาว่ากล่าวเอาเอง ต่อมาโจทย์จึงฟ้องจำเลยเรียกที่นาแลโฉนดของพระภิกษุภูคืนในฐานเปนเวยยาวัจกรของพระภิกษุภู ภายหลังพระภิกษุภูทำคำร้องแถลงว่าไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย เพราะที่นารายนี้พระภิกษุภูได้แลกเปลี่ยนกับโจทย์มานานแล้วขอถอนฟ้องที่โจทย์ได้ฟ้องแทนนั้นเสีย โจทย์จึงยื่นฟ้องคดีนี้เรียกโฉนดที่มีชื่อพระภิกษุภูจากจำเลย
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ถึงแม้พระภิกษุภูจะยอมรับว่าได้แลกเปลี่ยนที่นารายนี้กับโจทย์แล้วก็จริง แต่การโอนยังไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โจทย์จึงยังไม่มีกรรมสิทธิ์เปนเจ้าของที่นารายนี้ เพราะฉนั้นโจทย์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย ให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อได้ความว่า พระภิกษุภูได้ยกกรรมสิทธิ์ให้โจทย์โดยการแลกเปลี่ยนแล้วจำเลยไม่มีทางโต้เถียงกรรมสิทธิ์ของโจทย์ได้ โดยโจทย์มอบที่นาให้จำเลยทำ ดังศาลฎีกาได้วินิจฉัยไว้แล้วในคดีก่อน ส่วนการที่พระภิกษุภูไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์ให้โจทย์ณหอฐเบียรนั้น เปนอีกเรื่องหนึ่งไม่เกี่ยวแก่คดีนี้ จึงให้จำเลยคืนโฉนดซึ่งมีชื่อพระภิกษุภู แก่โจทย์

Share