แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยมิได้ปฏิบัติตามคำบังคับของศาลที่ให้จำเลยชำระเงินตามคำพิพากษาแก่โจทก์ภายใน30วันโดยอ้างว่าได้ยื่นฟ้องโจทก์ไว้เป็นอีกคดีหากชนะคดีดังกล่าวก็อาจหักกลบลบหนี้กันได้ขอให้รอคดีไว้ฟังผลคดีดังกล่าวดังนี้เป็นเรื่องของจำเลยในฐานะลูกหนี้ตามคำพิพากษาร้องขอให้งดการบังคับคดีเมื่อศาลแรงงานกลางเห็นว่าไม่อาจหักกลบลบหนี้กันได้ให้ออกหมายบังคับคดีจึงเป็นการใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้งดการบังคับคดีจำเลยจะอุทธรณ์ดุลพินิจดังกล่าวไม่ได้เพราะเป็นการอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงต้องห้ามตามพ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานฯมาตรา54.
ย่อยาว
ในชั้นบังคับคดี จำเลยขอให้รอคดีไว้ ศาลแรงงานกลางให้ออกหมายบังคับคดีตามที่โจทก์แถลง จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ที่จำเลยแถลงต่อศาลแรงงานกลางตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 7 สิงหาคม 2528 ว่า จำเลยได้ฟ้องโจทก์เป็นอีกคดีหนึ่งเรียกค่าเสียหายหลายหมื่นบาท ซึ่งอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลแรงงานกลาง หากจำเลยชนะคดีก็อาจหักกลบลบหนี้กันได้ จึงขอให้รอคดีไว้เพื่อฟังผลคดีที่จำเลยฟ้องโจทก์ดังกล่าวคำแถลงของจำเลยเช่นนี้พอแปลความได้ว่าจำเลยในฐานะลูกหนี้ตามคำพิพากษาร้องขอให้งดการบังคับคดี โดยเหตุที่จำเลยได้ฟ้องโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นคดีเรื่องอื่นในศาลเดียวกันนั้นซึ่งศาลแรงงานกลางยังมิได้วินิจฉัยและหากจำเลยเป็นฝ่ายชนะก็จะไม่ต้องมีการขายทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สินของจำเลยเพราะสามารถหักกลบลบหนี้กันได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293การที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่า คดีนี้ถึงที่สุดแล้ว จำเลยมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษา เมื่อศาลออกคำบังคับแล้วจำเลยไม่ปฏิบัติตามโดยจำเลยอ้างว่าได้ฟ้องคดีโจทก์เรียกค่าเสียหายอีกคดีหนึ่งนั้นเห็นว่า ไม่อาจหักกลบลบหนี้ได้ จึงให้ออกหมายบังคับคดีเช่นนี้จึงมีผลเป็นว่า ศาลแรงงานกลางได้ใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้งดการบังคับคดีไว้นั่นเอง ดังนั้นที่จำเลยอุทธรณ์ขอให้ศาลฎีกาทีคำสั่งให้งดการบังคับคดีเช่นนี้ จึงเป็นอุทธรณ์ดุลพินิจของศาลแรงงานกลางซึ่งเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานกลางและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลย.