คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 528/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 ไปชันสูตรพลิกศพและทำรายงานชันสูตรพลิกศพ จำเลยที่ 2 และอนามัยอำเภอไม่ได้ไปชันสูตรพลิกศาพ แต่ได้ลงชื่อในรายงานนั้นในภายหลัง จำเลยที่ 1 ได้ทำรายงานชันสูตรพลิกศพแสดงรายละเอียดตามที่กฎหมายกำหนด และตามความจริงศาลฟังข้อเท็จจริงว่านายประสิทธิบุตรชายโจทก์ตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกกระสุนปืนโดยนายงามเป็นผู้ทำให้ตาย การที่นายงามทำให้นายประสิทธิตาย จะกระทำโดยมีเจตนาฆ่าให้ตายหรือกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้นายประสิทธิตายก็ตาม ก็ต้องแล้วแต่พยานหลักฐาน ไม่เกี่ยวกับรายงานชันสูตรพลิกศพแต่อย่างใด ดังนั้น การที่จำเลยที่ 2 และอนามัยอำเภอจะลงชื่อในรายงานชันสูตรพลิกศพในภายหลังโดยที่ไม่ได้ร่วมชันสูตรพลิกศพด้วยก็ตาม ก็มิได้ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายโดยตรง จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบิดานายประสิทธิ กิจควร จำเลยที่ ๑ เป็นผู้บังคับกองตำรวจ จำเลยที่ ๒ เป็นนายอำเภอ เมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๐๕ นายงาม งามพิศ ได้ใช้ปืนยิงนายประสิทธิ กิจควรถึงแก่ความตาย โจทก์ไปแจ้งต่อจำเลยที่ ๑ ว่านายงามใช้ปืนยิงนายประสิทธิโดยเจตนาจะฆ่า จำเลยที่ ๑ กลับจดว่าโจทก์แจ้งว่านายงามทำปืนลั่นถูกนายประสิทธิโดยประมาท จำเลยที่ ๒ เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนได้ปล่อยปะละเลยไม่ได้สอบสวนความจริงให้แน่ชัด ระหว่างวันที่ ๑๑ – ๑๔ ธันวาคม ๒๕๐๕ จำเลยที่ ๑,๒ ได้สมคบกันทำใบชันสูตรพลิกศพอันเป็นเท็จและปลอมขึ้นโดยจำเลยที่ ๒ และนายสมพร พุ่มภักดี อนามัยอำเภอไม่ได้ไปร่วมทำการชันสูตรพลิกศพ แต่ได้ลงชื่อในฐานะผู้ชันสูตรพลิกศพ จำเลยที่ ๑,๒ ได้ละเว้นไม่ส่งปืนไปทำการพิสูจน์หลักฐาน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗, ๒๖๔, ๒๖๖ และ ๘๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าฟ้องโจทก์ไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาสั่งว่า ฏีกาข้อ ก.และค. เป็นฎีกาข้อเท็จจริง ส่วนฎีกาข้อง ข. เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ให้รับฎีกาโจทก์เฉพาะข้อ ข.
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามฎีกาข้อ ข. ของโจทก์ที่หาว่าจำเลยทำใบชันสูตรพลิกศพเป็นเท็จและปลอมนั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีโจทก์พอฟังได้ว่าจำเลยที่ ๑ ไปชันสูตรพลิกศพเพียงคนเดียว จำเลยที่ ๒ และอนามัยอำเภอไม่ได้ไปด้วย แต่ได้ลงชื่อในรายงานชันสูตรพลิกศพในภายหลังพิเคราะห์แล้วเห็นว่า รายงานชันสูตรพลิกศพเป็นเพียงหลักฐานแสดงว่าผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน ตายเมื่อใด ใครทำให้ตาย และแสดงเหตุและพฤติการณ์ที่ตายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตราร ๑๕๔ เท่านั้น คดีปรากฏว่า รายงานชันสูตรพลิกศพที่จำเลยที่ ๑ ทำขึ้น ได้แสดงรายละเอียดตามที่กฎหมายกำหนดดังกล่าวข้างต้นครบถ้วนตามความจริง และในการพิจารณาคดีอาญาหมายเลยแดงที่ ๗/๒๕๐๖ ศาลก็ฟังข้อเท็จจริงว่า นายประสิทธิบุตรของโจทก์ได้ตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกกระสุนปืน โดยนายงามเป็นผู้ทำให้ตาย จึงเห็นได้ว่าการที่จำเลยที่ ๒ และอนามัยอำเภอไปลงชื่อในรายงานชันสูตรพลิกศพในภายหลังนั้น ๆ ที่ไม่ได้ร่วมไปทำการชันสูตรพลิกศพผู้ตายด้วยนั้น มิได้ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายแต่ประการใด เพราะการที่นายงามทำให้นายประสิทธิตาย จะกระทำโดยมีเจตนาฆ่าให้ตายหรือกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้นายประสิทธิตาย ก็ต้องแล้วแต่พยานหลักฐาน ไม่เกี่ยวกับรายงานชันสูตรพลิกศพแต่อย่างใด ศาลฎีกาจึงเห็นว่า แม้จำเลยที่ ๒ และอนามัยอำเภอจะลงชื่อในรายงานชันสูตรพลิกศพในภายหลัง ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ร่วมชันสูตรพลิกศพก็ตาม ก็มิได้ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง ไม่มีอำนาจฟ้อง ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share