คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5254/2542

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 วรรคหนึ่ง มีเจตนารมณ์ในการกำหนดเป็นมาตรการให้ศาลนำมาใช้เพื่อให้สามารถดำเนินกระบวนพิจารณาให้สำเร็จลุล่วงไปได้ในกรณีที่ศาลและคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งพร้อมที่จะสืบพยานตามที่นัดได้ แต่โจทก์ไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องหรือขอเลื่อนคดี แต่ถ้าหากเป็นกรณีที่ศาลหรือคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งไม่พร้อมที่จะสืบพยานเช่น ศาลติดพิจารณาคดีอื่นหรือกรณีคดีนี้ที่ยังส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยไม่ได้ แม้โจทก์และพยานโจทก์มาศาล ศาลก็ไม่สามารถจะสืบพยานโจทก์ตามที่นัดไว้ได้ ดังนั้น โดยเจตนารมณ์ของบทบัญญัติแห่งบทกฎหมายดังกล่าว และเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลจึงยังไม่ควรด่วนสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 6,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำฟ้อง ให้โจทก์นำส่งหมายเรียก สำเนาคำฟ้องแก่จำเลยและกำหนดนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 21 ตุลาคม 2540 ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ไม่มีคู่ความฝ่ายใดมาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาจึงมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา ให้จำหน่ายคดีของโจทก์ออกเสียจากสารบบความ
โจทก์ยื่นคำร้องลงวันที่ 24 ตุลาคม 2540 อ้างว่า เป็นกรณีที่ยังส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลยไม่ได้ จึงไม่อาจถือเป็นวันสืบพยานตามกฎหมายไม่ชอบที่ศาลชั้นต้นจะสั่งจำหน่ายคดี ขอให้เพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดี แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า กรณีที่ยังส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลยไม่ได้ แต่ศาลชั้นต้นกำหนดวันสืบพยานโจทก์ไว้ล่วงหน้าโดยในวันดังกล่าวโจทก์ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งว่า โจทก์ขาดนัดพิจารณาให้จำหน่ายคดีของโจทก์ออกเสียจากสารบบความ คำสั่งดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 วรรคหนึ่ง มีเจตนารมณ์ในการกำหนดเป็นมาตรการให้ศาลนำมาใช้เพื่อให้สามารถดำเนินกระบวนพิจารณาให้สำเร็จลุล่วงไปได้ในกรณีที่ศาลและคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งพร้อมที่จะสืบพยานตามที่นัดไว้แต่โจทก์ไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องหรือขอเลื่อนคดี หากเป็นกรณีที่ศาลหรือคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งไม่พร้อมที่จะสืบพยานได้ เช่น ศาลติดพิจารณาคดีอื่นไม่มีเวลาเพียงพอที่จะดำเนินการสืบพยาน หรือคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งมีเหตุจำเป็นและขอเลื่อนคดี หรือกรณีเช่นคดีนี้ที่ยังส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยไม่ได้ แม้โจทก์และพยานโจทก์มาศาล ศาลก็ไม่สามารถจะสืบพยานโจทก์ตามที่นัดไว้ได้ ดังนั้น โดยเจตนารมณ์ของบทบัญญัติแห่งบทกฎหมายดังกล่าวมาแล้ว และเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา ให้จำหน่ายคดีของโจทก์ออกเสียจากสารบบความนั้น จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ตั้งแต่มีคำสั่งให้โจทก์ขาดนัดพิจารณาแล้วพิพากษาไปตามรูปคดี

Share