แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดแจ้งแล้วว่า จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลชั้นต้นในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2079/2542 ให้ลงโทษจำคุก 1 ปี และปรับ 15,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ฐานเสพเมทแอมเฟตามีนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ภายในกำหนดระยะเวลารอการลงโทษดังกล่าวจำเลยกระทำความผิดคดีนี้อีก เมื่อศาลชั้นต้นอ่านอธิบายฟ้องทั้งหมดให้จำเลยฟัง จำเลยก็ได้ให้การว่า “ได้ทราบคำฟ้องตลอดแล้ว ข้าพเจ้าจำเลยขอให้การรับสารภาพตามฟ้อง” คำให้การจำเลยที่รับสารภาพตามฟ้องดังกล่าวจึงย่อมหมายรวมถึงการรับว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อนตามที่โจทก์กล่าวหาในฟ้องด้วย ศาลชั้นต้นจึงนำโทษจำคุกของจำเลยที่รอการลงโทษไว้คดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษของจำเลยในคดีนี้ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔ , ๗ , ๑๕ , ๕๗ , ๖๗ , ๙๑ , ๑๐๒ พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗ , ๗๒ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒ , ๓๓ , ๕๘ , ๙๑ และริบกระบอกอลูมิเนียมพร้อมหลอดโลหะ ๑ กระบอก กระดาษอลูมิเนียม ๖ แผ่น และหลอดกระดาษ ๑ หลอด ของกลาง กับบวกโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๒๐๗๙/๒๕๔๒ ของศาลชั้นต้น เข้ากับโทษของจำเลยคดีนี้
จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาข้อกฎหมายจะต้องวินิจฉัยในเบื้องต้นว่า คำให้การของจำเลยที่ศาลชั้นต้นบันทึกไว้ว่า “ข้าพเจ้าจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง” นั้นนอกจากจะหมายถึงจำเลยรับสารภาพว่าได้กระทำผิดในข้อหาที่โจทก์ฟ้องแล้วจะหมายรวมไปถึงจำเลยได้รับว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ตามที่โจทก์กล่าวมาในฟ้องด้วยหรือไม่ ศาลฎีกาโดยมติของที่ประชุมใหญ่เห็นว่า คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดแจ้งแล้วว่า จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลชั้นต้นในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๒๐๗๙/๒๕๔๒ ให้ลงโทษจำคุก ๑ ปี และปรับ ๑๕,๐๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปี ฐานเสพเมทแอมเฟตามีนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ภายในกำหนดระยะเวลารอการลงโทษดังกล่าวจำเลยกระทำความผิดคดีนี้อีก เมื่อศาลชั้นต้นอ่านอธิบายฟ้องทั้งหมดให้จำเลยฟัง จำเลยก็ได้ให้การว่าได้ทราบคำฟ้องตลอดแล้ว ข้าพเจ้าจำเลยขอให้การรับสารภาพตามฟ้อง ดังนั้น คำให้การจำเลยที่รับสารภาพตามฟ้องดังกล่าวจึงย่อมหมายรวมถึงการรับว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อนตามที่โจทก์กล่าวหาในฟ้องด้วยนั่นเอง ศาลชั้นต้นจึงนำโทษจำคุกของจำเลยที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษของจำเลยในคดีนี้ได้
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ วรรคหนึ่ง (เดิม) , ๖๗ (ที่แก้ไขใหม่) เมื่อรวมโทษจำคุกทั้งสามฐานความผิดหลังจากลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งแล้วเป็นจำคุก ๑๒ เดือน นำโทษจำคุก ๑ ปี ที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๒๐๗๙/๒๕๔๒ ของศาลชั้นต้น มาบวกเข้ากับโทษของจำเลยคดีนี้เป็นจำคุก ๑ ปี ๑๒ เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๑.