คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5247/2547

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

คดีนี้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของจำเลยแล้ว เห็นว่า จำเลยมิใช่คนยากจนถึงขนาดไม่สามารถชำระค่าธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ได้ จึงมีคำสั่งยกคำร้องพร้อมกับมีคำสั่งว่าหากจำเลยประสงค์จะอุทธรณ์ต่อไปให้วางเงินค่าฤชาธรรมเนียมภายใน 7 วัน ซึ่งก็หมายถึงว่านับแต่วันที่มีคำสั่งยกคำร้องของจำเลย จำเลยย่อมมีสิทธิดำเนินการเพื่อให้ศาลรับอุทธรณ์ของจำเลยได้ คือนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมมาชำระภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดกรณีหนึ่ง หรือยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของจำเลยใหม่ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 156 วรรคสี่ อีกกรณีหนึ่ง เมื่อจำเลยใช้สิทธิดำเนินการในกรณีหลัง แม้บทบัญญัติดังกล่าวจะมิได้กำหนดระยะเวลาให้ยื่นคำร้องไว้ แต่เมื่อการใช้สิทธิดำเนินการในกรณีแรก คือการนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระ จะต้องนำมาชำระภายใน 7 วัน ตามคำสั่งของศาลชั้นต้น การใช้สิทธิดำเนินการในกรณีหลังตามบทบัญญัติดังกล่าวก็จะต้องดำเนินการคือยื่นคำร้องภายใน 7 วัน ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นการใช้สิทธิเพื่อให้ศาลรับอุทธรณ์ของจำเลยเหมือนกัน เมื่อจำเลยใช้สิทธิยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของจำเลยใหม่เมื่อพ้น 7 วัน นับแต่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งแล้ว ศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะมีคำสั่งยกคำร้อง กรณีเช่นนี้มิใช่เรื่องที่ศาลล่างทั้งสองศาลนำกำหนดระยะเวลาการใช้สิทธิการยื่นอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 156 วรรคห้า มาปรับแก่คดีของจำเลยซึ่งเป็นการใช้สิทธิตาม ป.วิ.พ. มาตรา 156 วรรคสี่

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีแก่โจทก์ทั้งหก
จำเลยอุทธรณ์ พร้อมยื่นคำร้องขอดำเนินคดีในชั้นอุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง หากจำเลยประสงค์จะอุทธรณ์ต่อไปให้วางเงินค่าฤชาธรรมเนียมภายใน 7 วัน
ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอใหม่ เพื่อขออนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าจำเลยเป็นคนยากจน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยยื่นคำร้องเกิน 7 วัน นับแต่ศาลมีคำสั่งยกคำร้องขออนาถาแล้ว ให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิพากษาคำขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ใหม่เพื่อขออนุญาตนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจน อันเป็นการใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสี่ ซึ่งกฎหมายมิได้กำหนดระยะเวลาไว้ การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกคำร้องของจำเลยโดยเห็นว่า จำเลยยื่นคำร้องเกิน 7 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งยกคำร้องขออนาถาแล้วจึงเป็นการไม่ชอบนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ของจำเลยแล้วเห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ของจำเลยแล้ว เห็นว่า จำเลยมิใช่คนยากจนถึงขนาดไม่สามารถชำระค่าฤชาธรรมเนียมได้ จึงมีคำสั่งยกคำร้องพร้อมกับมีคำสั่งว่าหากจำเลยประสงค์จะอุทธรณ์ต่อไปให้วางเงินค่าฤชาธรรมเนียมภายใน 7 วัน ซึ่งก็หมายถึงว่านับแต่วันที่มีคำสั่งยกคำร้องของจำเลย ในกรณีเช่นว่านี้จำเลยย่อมมีสิทธิดำเนินการเพื่อให้ศาลรับอุทธรณ์ของจำเลยได้คือนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด กรณีหนึ่ง หรือยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของจำเลยใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสี่ อีกกรณีหนึ่ง เมื่อจำเลยใช้สิทธิดำเนินการในกรณีหลังแม้บทบัญญัติดังกล่าวจะมิได้กำหนดระยะเวลาให้ยื่นคำร้องไว้ แต่เมื่อการใช้สิทธิดำเนินการในกรณีแรก คือนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระจะต้องนำมาชำระภายใน 7 วัน ตามคำสั่งของศาลชั้นต้น การใช้สิทธิดำเนินการในกรณีหลังตามบทบัญญัติดังกล่าวนั้นก็จะต้องดำเนินการคือยื่นคำร้องภายใน 7 วัน ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นการใช้สิทธิเพื่อให้ศาลรับอุทธรณ์ของจำเลยเหมือนกัน แต่เมื่อจำเลยใช้สิทธิยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของจำเลยใหม่เมื่อพ้นกำหนด 7 วัน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งแล้ว ศาลชั้นต้นชอบที่จะมีคำสั่งให้ยกคำร้องของจำเลยเสียได้ กรณีเช่นนี้มิใช่เรื่องที่ศาลล่างทั้งสองนำกำหนดระยะเวลาการใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคห้า มาปรับแก่คดีคำร้องของจำเลยซึ่งเป็นการใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสี่ เมื่อวินิจฉัยดังนี้แล้ว ปัญหาที่ว่าการบรรยายคำร้องของจำเลยที่ขอนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าเป็นคนยากจนดังกล่าวนั้นชอบหรือไม่ ย่อมไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไป ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งและคำพิพากษาต้องตามกันมาให้ยกคำร้องของจำเลยชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง การดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นไต่สวนอนาถา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 149 วรรคสาม บัญญัติให้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล ที่จำเลยเสียค่าคำร้องมาในศาลชั้นต้น 20 บาท และค่าขึ้นศาลในการยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งและยื่นฎีกาในชั้นนี้มาชั้นศาลละ 200 บาท ศาลฎีกาเห็นสมควรที่จะสั่งคืนให้แก่จำเลย”
พิพากษายืน

Share