แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้จำเลยชนะคดี แต่ถ้าจำเลยเห็นว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ถูกต้องตรงตามประเด็น และผลของคำพิพากษาทำให้เสียสิทธิของจำเลย จำเลยก็มีสิทธิฎีกาได้
คดีมีประเด็นว่าโจทก์ฟ้องเรียกเงินที่โจทก์อ้างว่าเข้าหุ้นส่วนกับจำเลยคืนได้หรือไม่ ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์ไม่ได้เข้าหุ้นส่วนกับจำเลยจึงยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการนำสืบของโจทก์นอกฟ้องนอกประเด็นจึงพิพากษายืน ผลก็คือโจทก์ฟ้องเรียกเงินคืนจากจำเลยไม่ได้ ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาตรงตามประเด็นแล้ว
การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่ภายในอายุความนั้น เป็นดุลยพินิจของศาลที่จะวินิจฉัยสั่งได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยชวนโจทก์ให้เข้าหุ้นส่วนทำการปลูกสร้างตึกแถวโดยโจทก์จำเลยออกทุนเช่าที่ดินแล้วเอาตึกที่สร้างออกขายหรือให้เช่า เอากำไรแบ่งปันกันโจทก์ได้เช่าที่ดิน ชำระมัดจำการเช่าออกเงินชำระค่าไม้และจ่ายเงินค่าซื้อเครื่องเหล็ก เมื่อปลูกตึกแล้ว จำเลยขอเลขทะเบียนในนามจำเลยเป็นเจ้าของ โจทก์ขอให้คืนเงิน จำเลยไม่ยอมรับรู้ ขอให้บังคับจำเลยคืนเงินค่ามัดจำที่ดิน ค่าซื้อไม้ ค่าซื้อเครื่องเหล็กให้โจทก์
จำเลยให้การว่าไม่เคยชวนโจทก์เข้าหุ้นส่วนที่ที่โจทก์เช่าไม่ใช่แปลงที่จำเลยเช่า จำเลยร่วมทุนกับคนอื่นปลูกตึก แม้โจทก์จำเลยจะเข้าหุ้นส่วนกันจริงโจทก์ก็ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกเงินทุนที่ลงไปในเมื่อยังมิได้มีการเลิกหุ้นส่วน
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว ไม่เชื่อว่าโจทก์จำเลยเข้าหุ้นส่วนปลูกตึกพิพาทพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์นำสืบนอกฟ้องนอกประเด็น พิพากษายืนให้ยกฟ้องโจทก์ แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่ให้ถูกต้องภายในอายุความ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้จำเลยชนะคดี แต่จำเลยฎีกาคัดค้านว่าวินิจฉัยไม่ถูกต้องตรงตามประเด็น ถ้าวินิจฉัยตรงกับประเด็นแล้วจะพิพากษาได้ว่าโจทก์มีสิทธิเรียกเงินคืน จากจำเลยได้หรือไม่โดยไม่ต้องมีเงื่อนไขให้โจทก์จำเลยไปฟ้องกันอีก ฎีกาของจำเลยจึงคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าวินิจฉัยไม่ถูกต้องและกล่าวอ้างว่าผลคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ทำให้เสียสิทธิของจำเลย เพราะจำเลยจะไม่ต้องถูกโจทก์ฟ้องเป็นคดีใหม่อีกหากศาลอุทธรณ์วินิจฉัยตรงตามประเด็น จำเลยจึงมีสิทธิฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๗ คดีนี้มีประเด็นว่าโจทก์ฟ้องเรียกเงินที่โจทก์อ้างว่าเข้าหุ้นส่วนกับจำเลยคืนจากจำเลยได้หรือไม่ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์ไม่ได้เข้าหุ้นส่วนกับจำเลย จึงพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการนำสืบของโจทก์นอกฟ้องนอกประเด็น จึงพิพากษายืน ผลก็คือโจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลยไม่ได้ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษาตรงตามประเด็นแล้ว เป็นแต่อาศัยเหตุอื่นมิใช่เหตุเดียวกันที่ศาลชั้นต้นยกขึ้นวินิจฉัย ซึ่งศาลอุทธรณ์มีอำนาจทำได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๒(๒) ส่วนที่ศาลอุทธรณ์ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่ภายในกำหนดอายุความนั้น เป็นดุลยพินิจของศาลอุทธรณ์ที่จะวินิจฉัยสั่งได้
พิพากษายืน