แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า “เมื่อวันเดือนใดไม่ปรากฏจนถึงปัจจุบัน ทั้งเวลากลางวันและเวลากลางคืนต่อเนื่องกันตลอดมา จำเลยทั้งสองร่วมกันบังอาจบุกรุกที่ดินและทำให้เสียทรัพย์ โจทก์เพิ่งทราบการกระทำผิดของจำเลยเมื่อเดือนมกราคม 2523” เห็นได้ว่า โจทก์ไม่ทราบแน่ชัดว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดวันเวลาใด แต่โจทก์ได้บรรยายเกี่ยวกับเวลาที่เกิดการกระทำผิดเท่าที่ทราบพอสมควรที่จะให้จำเลยทั้งสองเข้าใจแล้วไม่ทำให้จำเลยหลงต่อสู้หรือเสียเปรียบ ฟ้องของโจทก์จึงมีข้อความสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่ดินโฉนดเลขที่ ๓๒๐๔ ตำบลบ้านเหมือง (บางพระ) อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เนื้อที่ ๕ ไร่ ๓๐ ตารางวา เมื่อวันเดือนใดไม่ปรากฏจนถึงฟ้องนับทั้งกลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกันตลอดมา จำเลยทั้งสองบังอาจร่วมกันโดยจำเลยที่ ๑ บุกรุกเข้าไปในที่ดินของโจทก์เพื่อถือการครอบครอง จำนวนเนื้อที่ ๔ ไร่ ๓ งาน ๕๐ ตารางวา และจำเลยทั้งสองบุกรุกเข้าไปปลูกตึก ๑ หลัง กับขุดดินเพื่อทำบ่อเลี้ยงกุ้งอันเป็นการรบกวนการครอบครองของโจทก์โดยปกติสุข และทำให้ที่ดินของโจทก์ต้องเสียหายเสื่อมราคา โจทก์เพิ่งทราบการกระทำของจำเลยทั้งสองเมื่อเดือนมกราคม ๒๕๒๓ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๘, ๓๖๒,๓๖๕ และ ๘๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว มีคำสั่งประทับฟ้อง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ขาดวันเวลากระทำผิดเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษาใหม่ โดยวินิจฉัยว่าโจทก์บรรยายฟ้องตามความเป็นจริง และจำเลยทั้งสองไม่ได้หลงต่อสู้ ฟ้องโจทก์ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๕๘(๕)
จำเลยทั้งสองฎีกา ในระหว่างฎีกาศาลฎีกาอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องเฉพาะข้อหาตามมาตรา ๓๕๘, ๓๖๒, ๓๖๓
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำฟ้องในคดีอาญาจะต้องมีรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาซึ่งเกิดการกระทำผิด เมื่อฟ้องของโจทก์บรรยายว่า “เมื่อวันเดือนใดไม่ปรากฏจนถึงปัจจุบันทั้งเวลากลางวันและเวลากลางคืนต่อเนื่องกันตลอดมา จำเลยทั้งสองร่วมกันบังอาจบุกรุกที่ดินและทำให้เสียทรัพย์ โจทก์เพิ่งทราบการกระทำผิดของจำเลยเมื่อเดือนมกราคม ๒๕๒๓” จึงเห็นได้ว่าที่โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่าจำเลยทั้งสองบุกรุกเข้ามาในที่ดินของโจทก์ และทำให้ทรัพย์ของโจทก์เสียหายเมื่อวันเดือนปีใด ก็เพราะโจทก์ไม่ทราบแน่ชัด แต่โจทก์ก็ได้บรรยายเกี่ยวกับเวลาที่เกิดการกระทำผิดเท่าที่ทราบพอสมควรที่จะให้จำเลยทั้งสองเข้าใจแล้วหาทำให้จำเลยหลงต่อสู้หรือเสียเปรียบแต่ประการใดไม่ ฟ้องของโจทก์จึงมีข้อความสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘
พิพากษายืน