คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 518/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมีที่อยู่ ถูกจับ และเหตุเกิดในเขตอำเภอสอบสวนของพนักงานสอบสวนอำเภอหนึ่ง หากพนักงานสอบสวนอำเภออื่นจะเป็นผู้สอบสวน จำเลยจะคัดค้านอำนาจสอบสวนหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่ทำให้การสอบสวนนั้นกลับเป็นการสอบสวนที่ชอบด้วยกฎหมายได้ เท่ากับไม่มีการสอบสวน พนักงานอัยการจึงไม่มีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกับจำเลยในคดีอาญาดำที่ ๒๙/๒๕๐๔ทำสุรากลั่นและมีภาชนะเครื่องกลั่นสำหรับสุราไว้ในครอบครอง มีสุรากลั่น สุราแช่ ที่รู้ว่าทำขึ้นโดยฝ่าฝืนมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. ๒๔๙๓ โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน เหตุเกิดที่ตำบลเขื่องคำ อำเภอยะโสธร จังหวัดอุบลราชธานี ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. ๒๔๙๓ มาตรา ๕, ๓๐, ๓๒ พระราชบัญญัติสุรา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๔, ๖
จำเลยให้การว่า มิได้กระทำผิดตามฟ้องและตัดฟ้องว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ทั้งการสอบสวนคดีนี้ก็ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายไปด้วย ขอให้ยกฟ้อง
เมื่อสืบพยานโจทก์ได้ ๑ ปาก โจทก์ขอเพิ่มเติมที่เกิดเหตุเป็นตำบลสงเปื่อย อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดอุบลราชธานี อีกแห่งหนึ่ง จำเลยไม่คัดค้าน ศาลอนุญาต
ศาลชั้นต้นเห็นว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม พนักงานสอบสวนอำเภอยะโสธรมีอำนาจสอบสวน และฟังว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง ปรับ ๒,๐๐๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์ว่า พนักงานสอบสวนอำเภอยะโสธรไม่มีอำนาจสอบสวน เพราะเหตุเกิดในท้องที่ตำบลย่อ อำเภอคำเขื่อนแก้ว นอกเขตอำนาจการสอบสวน การสอบสวนจึงไม่ชอบ ทั้งข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิด ขอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเหตุเกิดในท้องที่อำเภอคำเขื่อนแก้ว พนักงานสอบสวนอำเภอยะโสธรจึงไม่มีอำนาจสอบสวน การสอบสวนจึงไม่ชอบ มีผลเท่ากับไม่มีการสอบสวน ไม่จำเป็นต้องชี้ขาดข้อเท็จจริง พิพากษากลับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว พยานโจทก์ว่าตรงที่ที่จำเลยทำการต้มกลั่นสุราและที่ที่จับจำเลยได้พร้อมของกลางอยู่ในเขตท้องที่อำเภอคำเขื่อนแก้ว จึงฟังได้ว่าความผิดอาญามิได้เกิด และจำเลยมิได้ถูกจับในเขตท้องที่อำเภอยะโสธร ส่วนที่พยานโจทก์ว่าเห็นจำเลยยกไหใส่เรืออยู่ในเขตอำเภอยะโสธร แล้วพายเรือข้ามบุ่งกุดแทบไปยังฝั่งตรงข้าม คือ ที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ในเขตอำเภอคำเขื่อนแก้วนั้น ก็ไม่แน่ชัดว่าในไหนั้นจะมีน้ำสุราอยู่ด้วย เพราะโจทก์มิได้นำสืบ จึงอาจเป็นไหเปล่าก็ได้ ยังไม่พอฟังว่าจำเลยได้กระทำผิดอาญาฐานใดฐานหนึ่งตามที่โจทก์กล่วในฟ้องในเขตท้องที่อำเภอยะโสธรได้เลย ทั้งตามฟ้องของโจทก์ก็ระบุว่าจำเลยตั้งบ้านเรือนอยู่อำเภอคำเขื่อนแก้ว ความผิดได้เกิดขึ้นและจำเลยมีที่อยู่ ทั้งจำเลยถูกจับในเขตอำเภอคำเขื่อนแก้วทั้งสิ้น จึงเป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนอำเภอคำเขื่อนแก้ว เป็นผู้สอบสวน การสอบสวนของพนักงานสอบสวนอำเภอยะโสธรจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยจะได้คัดค้านอำนาจการสอบสวนหรือไม่ ก็ไม่ทำให้การสอบสวนที่ปราศจากอำนาจนั้นกลับเป็นการสอบสวนโดยชอบด้วยกฎหมายได้ เมื่อการสอบสวนไม่ชอบ ก็เท่ากับไม่มีการสอบสวน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๒๐ บัญญัติห้ามไม่ให้พนักงานอัยการฟ้องคดีโดยมิได้มีการสอบสวนก่อน จึงไม่จำต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้กระทำผิดหรือไม่ ตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ ๔๒๖/๒๔๘๓ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share