คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5169/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ศาลจะมีคำสั่งตั้ง ศ. มารดาผู้คัดค้านให้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกับผู้ร้องได้นั้น ข้อเท็จจริงจะต้องได้ความว่า ผู้คัดค้านเป็นทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียที่มีสิทธิยื่นคำร้องขอต่อศาล ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1713 และมีเหตุที่จะแต่งตั้ง ศ. เป็นผู้จัดการมรดกตาม ป.พ.พ. มาตรา 1718 เมื่อผู้คัดค้านเป็นบุตรของผู้ตายเกิดกับ ศ. และเป็นบุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้ว ย่อมเป็นทายาทโดยธรรมและมีสิทธิรับมรดกได้ จึงเป็นผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอต่อศาล
การแต่งตั้งผู้จัดการมรดกนั้น ศาลย่อมใช้ดุลพินิจโดยคำนึงถึงความเหมาะสมเพื่อประโยชน์แก่กองมรดกด้วย เมื่อปรากฏว่าผู้คัดค้านยังเป็นผู้เยาว์ไม่สามารถจัดการงานด้วยตนเองได้ ผู้ร้องไม่พอใจที่ผู้ตายมีบุตรกับ ศ. และไม่ยอมรับว่าผู้คัดค้านเป็นทายาทของผู้ตาย ประกอบกับ ศ. มารดาผู้คัดค้านมีคุณสมบัติไม่ต้องห้ามตาม ป.พ.พ. มาตรา 1718 และมีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกของผู้ตาย ดังนั้น เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงสมควรตั้ง ศ. มารดาผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกับผู้ร้อง ส่วนที่ว่า ศ. มารดาผู้คัดค้านไม่มีความรู้เรื่องทรัพย์มรดกของผู้ตายและจะมีปัญหายุ่งยากในการจัดการมรดก ก็ไม่เป็นเหตุต้องห้ามในการเป็นผู้จัดการมรดก

Share