แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความผิดฐานมีอาวุธปืนโดยไม่รับอนุญาตนั้น ข้อเท็จจริงไม่เป็นอันเดียวกัน เกี่ยวพันกันนั้น ข้อเท็จจริงไม่เป็นอันเดียวกัน เกี่ยวพันกันหรือต่อเนื่องกันกับความผิดฐานพกอาวุธปืนไปในทางสาธารณโดยไม่มีเหตุสมควร และฐานใช้อาวุธปืนขู่เข็ญข่มเหงรังแกผู้อื่นให้ตกใจกลัวตามความหมายในมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ
ย่อยาว
ผู้ว่าคดีฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงว่า จำเลยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต ศาลแขวงสั่งรับฟ้องไว้แล้ว ต่อมาเมื่อพนักงานอัยการได้รับสำนวนจากศาลแขวงเห็นว่า จำเลยควรมีความผิดฐานพกอาวุธปืนไปในทางสาธารณ โดยไม่มีเหตุอันควรและฐานใช้อาวุธปืนขู่เข็ญข่มเหงรังแกผู้อื่นให้เกิดความตกใจกลัวด้วยพนักงานอัยการจึงฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัด ขอให้ลงโทษจำเลยในฐานความผิดทั้งสามนั้น โดยถือว่าเป็นความผิดที่มีข้อเท็จจริงอันเดียวกเกี่ยวพันและต่อเนื่องจากข้อเท็จจริงในความผิดที่ศาลแขวงได้สั่งรับฟ้องไว้แล้ว
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษเฉพาะฐานมีอาวุธปืนโดยไม่รับอนุญาต ส่วนข้อหาฐานพกอาวุธปืนไปในทางสาธารณและฐานขู่เข็ญข่มเหงรังแกผู้อื่นให้ตกใจกลัวนั้น เห็นว่า ข้อเท็จจริงไม่เกี่ยวพันหรือต่อเนื่องกับฐานมีอาวุธปืนไม่รับอนุญาต ฉะนั้น เมื่อศาลแขวงมิได้ไต่สวนมูลฟ้องในสองฐานนี้ไว้ อัยการโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายนี้เช่นเดียวกันกับศาลชั้นต้น