คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2488

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การร้องขัดทรัพย์ต้องเป็นเรื่องอ้างว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ใช่เจ้าของทรัพย์สินที่ยึด
ในกรณีที่ศาลพิพากษาให้ภรรยาผู้ตายใช้หนี้แทนผู้ตาย แล้วโจทก์ยึดทรัพย์มฤดกนั้น ถ้าใครอ้างว่าจำเลยไม่ใช่ภรรยาผู้ตายและไม่ใช่ผู้รับมฤดก จะดำเนินคดีทางร้องขัดทรัพย์ไม่ได้

ย่อยาว

เดิมโจทก์ฟ้องนางชั้นจำเลย ขอให้รับผิดใช้หนี้ของนายเล็กสามีซึ่งได้วายชนม์ไปแล้ว นางชั้นจำเลยได้ทำสัญญาปราณีประนอมยอมความกับโจทก์ยอมชำระหนี้แทนสามี ครบกำหนดสัญญานางชั้นไม่ชำระเงินโจทก์ได้ยึดที่ดินซึ่งมีชื่อผู้ตายเป็นเจ้าของอยู่ด้วย
นายน้อมยื่นคำร้องขัดทรัพย์ อ้างว่านายน้อมมีสิทธิที่จะได้รับมฤดกของนายเล็กผู้ตาย นางชั้นจำเลยไม่มีสิทธิทำสัญญายอมความกับโจทก์ เพราะนางชั้นไม่ใช่ภรรยาของนายเล็กและไม่ใช่เป็นผู้รับมฤดก จึงเป็นบุคคลภายนอก แม้จะเป็นก็ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ถอนการยึด
ศาลชั้นต้นสั่งว่า หนึ่สินรายนี้เป็นของนายเล็กและผู้ร้องก็รับว่าที่ดินที่โจทก์ยึด นายเล็กมีส่วนได้อยู่ด้วยจะร้องขัดทรัพย์ไม่ได้ ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าตาม ป.ม. วิธีพิจารณาความแพ่ง ม.๒๘๘ การร้องขัดทรัพย์ ต้องเป็นกรณีผู้ร้องกล่าวอ้างว่า “ลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ใช่เจ้าของทรัพย์สินที่ยึด” แต่คดีนี้ปรากฎว่าตามฟ้องและสัญญาปราณีประนอมยอมความลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นภรรยาต้องใช้หนี้แทนสามีผู้วายชนม์ ทรัพย์สินที่ยึดเป็นของสามีผู้วายชนม์ หาใช่เป็นเรื่องยึดทรัพย์ของบุคคลอื่นไม่ จะร้องขัดทรัพย์ไม่ได้พิพากษายืน ให้ยกคำร้อง

Share