แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฎีกาของจำเลยหน้า 1 ตั้งแต่ข้อ 1 และหน้า 2 มีข้อความเหมือนกับอุทธรณ์ในหน้า 1 ตั้งแต่ข้อ 1 และหน้า 2 ทุกประการ ฎีกาตั้งแต่หน้า 3ถึงหน้า 78 เป็นการถ่ายสำเนามาจากอุทธรณ์หน้า 3 ถึงหน้า 78 คงมีข้อความเพิ่มเติมในหน้า 78 เพียงว่า ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ตามฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำเลยไม่เห็นด้วย จึงขอฎีกาดังต่อไปนี้ ฎีกาตั้งแต่หน้า 79 ถึงหน้า 102 ก็ถ่ายสำเนามาจากอุทธรณ์ตั้งแต่หน้า 100 ถึงหน้า 123 ส่วนฎีกาหน้า 103 และหน้า 104 แม้จะไม่ได้ถ่ายสำเนามาจากอุทธรณ์หน้า 124 และหน้า 125 โดยตรง แต่ก็มีถ้อยคำสำนวนไม่แตกต่างกัน ฎีกาของจำเลยดังกล่าวไม่ได้โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่ถูกต้องด้วยกฎหมายกับข้อเท็จจริงอย่างไร และที่ถูกต้องควรจะเป็นอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ.มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน ๖๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๓๔ จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๖๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๓๔ จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปรากฏตามฎีกาของจำเลยว่า ฎีกาในหน้า ๑ตั้งแต่ข้อ ๑ และหน้า ๒ มีข้อความเหมือนกับอุทธรณ์ในหน้า ๑ ตั้งแต่ข้อ ๑ และหน้า ๒ ทุกประการ ฎีกาตั้งแต่หน้า ๓ ถึงหน้า ๗๘ เป็นการถ่ายสำเนามาจากอุทธรณ์หน้า ๓ ถึงหน้า ๗๘ คงมีข้อความเพิ่มเติมในหน้า ๗๘ เพียงว่า ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ตามฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยไม่เห็นด้วย จึงขอฎีกาดังต่อไปนี้ ฎีกาตั้งแต่หน้า ๗๙ ถึงหน้า ๑๐๒ ก็ถ่ายสำเนามาจากอุทธรณ์ตั้งแต่หน้า ๑๐๐ ถึงหน้า ๑๒๓ ส่วนฎีกาหน้า ๑๐๓ และหน้า ๑๐๔ แม้จะไม่ได้ถ่ายสำเนามาจากอุทธรณ์หน้า ๑๒๔ และหน้า ๑๒๕ โดยตรง แต่ก็มีถ้อยคำสำนวนไม่แตกต่างกัน ฎีกาของจำเลยดังกล่าวไม่ได้โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่ถูกต้องด้วยกฎหมายกับข้อเท็จจริงอย่างไรและที่ถูกต้องควรจะเป็นอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งย่อมไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๙ วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาจำเลย คืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นฎีกาทั้งหมดให้แก่จำเลย.