คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่จำเลยมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองและพาอาวุธปืนดังกล่าวติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายด้วยถือว่าเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรม คือ มีอาวุธปืนพกขนาดจำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน 1 นัดที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในความครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียบอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 55, 72 ทวิ, 78ฯ
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกฐานมีอาวุธปืน 2 ปี ฐานพกพาอาวุธปืน30 วัน ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำคุก1 ปี 15 วัน ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน หรือเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่จำเลยมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อมเป็นความผิดสำเร็จกรรมหนึ่งแล้ว นับแต่จำเลยมีไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมายเมื่อจำเลยพาอาวุธปืนดังกล่าวติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายแล้ว การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดอีกกรรมหนึ่งต่างหาก ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน และลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปจึงชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share