คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นกำหนดให้นายประกันส่งตัวจำเลยในคดีอาญาต่อศาลภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน แต่จำเลยได้ถูกจับและถูกควบคุมโดยอำนาจของเจ้าพนักงานตำรวจเสียตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน และได้ถูกควบคุมตลอดมา ซึ่งเป็นเหตุให้ไม่สามารถมาศาลตามกำหนดนัดได้ ดังนี้ จะถือว่าจำเลยหลบหนีหายซึ่งนายประกันจะต้องรับผิดตามสัญญาประกันไม่ได้เพราะการที่ศาลเอาตัวจำเลยมาพิจารณาบังคับบัญชาในวันกำหนดนัดไม่ได้นั้น เป็นเพราะถูกเจ้าพนักงานควบคุมอยู่ หาใช่หลบหนีหายไปไหนไม่

ย่อยาว

นายประกันได้ประกันตัวจำเลยในคดีอาญาไว้ ครั้นถึงวันนัดพิจารณาจำเลยไม่มาศาล นายประกันยื่นคำร้องขอเลื่อนอ้างว่าจำเลยป่วยอยู่จังหวัดนครปฐมศาลแขวงพระนครเหนือสั่งให้นายประกันพาตัวจำเลยส่งศาลภายในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2489 ถึงกำหนดนายประกันส่งตัวจำเลยไม่ได้ อ้างว่าจำเลยไปป่วยอยู่ห่างไกลที่ว่าการจังหวัด ยากแก่การติดตาม ขอเลื่อนไปอีก 20 วัน ศาลแขวงพระนครเหนือไม่อนุญาตสั่งปรับนายประกันตามสัญญาข้อ 2 เป็นเงิน 20,000 บาท ต่อมาอีก 2 วันก่อนนายประกันชำระค่าปรับปรากฏว่าจำเลยขึ้นไปจังหวัดลำปางแล้วไปถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับโดยต้องหาว่าปล้นทรัพย์ แล้วถูกควบคุมตัว ตลอดมาตั้งแต่วันที่ถูกจับคือวันที่ 12 พฤศจิกายน 2489 เมื่อปรากฏเช่นนี้นายประกันจึงร้องขอให้ศาลงดการปรับเสีย ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาต เพราะถือว่าที่นายประกันอ้างว่าจำเลยป่วยส่งตัวไม่ได้นั้นไม่ตรงต่อความจริงเพราะปรากฏว่าจำเลยขึ้นไปอยู่และถูกจับที่จังหวัดลำปาง

นายประกันอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ปรับนายประกัน

อัยการฎีกา

ศาลฎีกา เห็นว่า ศาลชั้นต้นกำหนดให้นายประกันส่งตัวจำเลยต่อศาลภายในวันที่ 12 พฤศจิกายน แต่จำเลยถูกจับและถูกควบคุมโดยอำนาจของเจ้าพนักงานตำรวจเสียตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน และได้ถูกควบคุมตลอดมา ซึ่งเป็นเหตุให้ไม่สามารถมาศาลตามกำหนดนัดได้ดังนี้จะถือว่าจำเลยหลบหนีหาย ซึ่งนายประกันจะต้องรับผิดตามสัญญาประกันไม่ได้ เพราะการที่ศาลเอาตัวจำเลยมาพิจารณาบังคับบัญชาในวันกำหนดนัดไม่ได้นั้นเป็นเพราะถูกเจ้าพนักงานควบคุมอยู่ หาใช่หลบหนีหายไปไม่ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว จึงพิพากษายืน

Share