แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นกำหนดให้นายประกันส่งตัวจำเลยในคดีอาญาต่อศาลภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน แต่จำเลยได้ถูกจับและถูก
ควบคุมโดยอำนาจของเจ้าพนักงานตำรวจเสีย ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน และได้ถูกควบคุมตลอดมา ซึ่งเป็นเหตุให้ไม่สามารถมาศาลตามกำหนดนัดได้ ดังนี้จะถือว่าจำเลยหลบหนีหาย ซึ่งนายประกันจะต้องรับผิดตามสัญญาประกันไม่ได้ เพราะการที่ศาลเอาตัวจำเลยมาพิจารณาบังคับบัญชาในวันกำหนดนัดไม่ได้นั้น เป็นเพราะถูกเจ้าพนักงานควบคุมอยู่ หาใช่หลบหนีหายไปไหนไม่
ย่อยาว
นายประกันได้ประกันตัวจำเลยในคดีอาญาไว้ ครั้นถึงวันนัดพิจารณาจำเลยไม่มาศาล นายประกันยื่นคำร้องขอเลื่อน อ้างว่าจำเลยป่วยอยู่จังหวัดนครปฐม ศาลแขวงพระนครเหนือสั่งให้นายประกันพาตัวจำเลยส่งศาลภายในวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๔๘๙ ถึงกำหนดนายประกันส่งตัวจำเลยไม่ได้ อ้างว่าจำเลยไปป่วยอยู่ห่างไกลที่ว่าการจังหวัด ยากแก่การติดตาม ขอเลื่อนไปอีก ๒๐ วัน ศาลแขวงพระนครเหนือไม่อนุญาตสั่งปรับนายประกันตามสัญญาข้อ ๒ เป็นเงิน ๒๐๐๐๐ บาท ต่อมาอีก ๒ วันก่อนนายประกันชำระค่าปรับ ปรากฎว่าจำเลยขึ้นไปจังหวัดลำปาง แล้วไปถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับ โดยต้องหาว่าปล้นทรัพย์ แล้วถูกควบคุมตัวตลอดมาตั้งแต่วันที่ถูกจับ คือวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๔๘๙ เมื่อปรากฎเช่นนี้ นายประกัน จึงร้องขอให้ศาลงดการปรับเสีย ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาต เพราะถือว่าที่นายประกันอ้างว่าจำเลยป่วย ส่งตัวไม่ได้นั้น ไม่ตรงต่อความจริง เพราะปรากฎว่า จำเลยขึ้นไปอยู่และถูกจับที่จังหวัดลำปาง
นายประกันอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ปรับนายประกัน
อัยยการฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลชั้นต้นกำหนดให้นายประกันส่งตัวจำเลยต่อศาลภายในวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน แต่จำเลยถูกจับและถูกควบคุมโดยอำนาจของเจ้าพนักงานตำรวจเสียตั้งแต่วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน และได้ถูกควบคุมตลอดมา ซึ่งเป็นเหตุให้ไม่สามารถมาศาลตามกำหนดนัดได้ดังนี้ จะถือว่าจำเลยหลบหนีหาย ซึ่งนายประกันจะต้องรับผิดตามสัญญาประกันไม่ได้ เพราะการที่ศาลเอาตัวจำเลยมาพิจารณาบังคับบัญชาในวันกำหนดนัดไม่ได้นั้น เป็นเพราะถูกเจ้าพนักงานควบคุมอยู่ หาใช่หลบหนีหายไปไม่ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว จึ่งพิพากษายืน