คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5115/2531

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยลงลายมือชื่อเป็นผู้ฎีกาและผู้เขียน โดยมี ว.นักโทษในเรือนจำเดียวกับจำเลยลงลายมือชื่อเป็นผู้เรียง เมื่อ ว.มิได้เป็นผู้ซึ่งได้จดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นทนายความ และไม่ปรากฎว่าเป็นบุคคลซึ่งอยู่ในข้อยกเว้นตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 ดังนี้ฎีกาของจำเลยจึงเกิดจากการกระทำโดยไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่อาจรับพิจารณาให้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดแทนนางสมควร เจริญพร โดยเจตนาฆ่าแต่นางสมควรไม่ถึงแก่ความตายสมเจตนาของจำเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80, จำคุก 10 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้จำเลยตั้งทนายแก้ต่างไว้แล้วแต่ในชั้นฎีกาจำเลยทำฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เอง โดยจำเลยลงลายมือชื่อเป็นผู้ฎีกาและผู้เขียนและมีนักโทษในเรือนจำเดียวกับจำเลยคือ น.ช.วิฑูรย์ อินทร์สอาด ลงลายมือชื่อเป็นผู้เรียงศาลฎีกาเห็นว่า ตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 มาตรา 33บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ผู้ซึ่งไม่ได้จดทะเบียนและรับใบอนุญาตหรือผู้ที่ขาดจากการเป็นทนายความ หรือต้องห้ามทำการเป็นทนายความว่าความในศาล หรือแต่งคำฟ้องคำให้การ ฟ้องอุทธรณ์ แก้อุทธรณ์ฟ้องฎีกา แก้ฎีกา คำร้อง หรือคำแถลงอันเกี่ยวแก่การพิจารณาคดีในศาลให้แก่บุคคลอื่น ทั้งนี้เว้นแต่จะได้กระทำในฐานะข้าราชการผู้ปฏิบัติการตามหน้าที่ หรือเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐองค์การของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ ผู้ปฏิบัติการตามหน้าที่ หรือมีอำนาจหน้าที่กระทำได้โดยบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาความหรือกฎหมายอื่น” ซึ่งการฝ่าฝืนมาตรา 33 นี้ มีโทษทางอาญาตามมาตรา 82 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว น.ช.วิฑูรย์มิได้เป็นผู้ซึ่งได้จดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นทนายความ และไม่ปรากฏว่าเป็นบุคคลซึ่งอยู่ในข้อยกเว้นตามมาตรา 33 การที่ น.ช.วิฑูรย์เรียงหรือแต่งฟ้องฎีกาให้จำเลยจึงเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาที่เกิดจากการกระทำโดยไม่ชอบศาลฎีกาไม่อาจรับพิจารณาให้”
พิพากษายกฎีกาจำเลย

Share