คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5111/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผลิตภัณฑ์ทองเหลืองหน้าตัดรูปตัวทีผู้ซื้อนำไปใช้คั่นในการปูพื้นหินขัดหรือหินอ่อน เป็นส่วนประกอบในการตกแต่งพื้นอาคารและทองเหลืองหน้าตัดรูปตัวแอล ผู้ซื้อนำไปทำคิ้วเครื่องเรือนและติดขอบบันได เป็นวัสดุที่ทำขึ้นเพื่อใช้ในการก่อสร้างและทำเครื่องเรือน แม้มิใช่สิ่งจำเป็นในการก่อสร้างและทำเครื่องเรือนแต่ถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการก่อสร้างและทำเครื่องเรือนจึงเป็นสินค้าตามบัญชีที่ 1 หมวด 4(6) ท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตรา และยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 54)พ.ศ. 2517 และบัญชีที่ 2 หมวด 4(1)(3) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย(ฉบับที่ 133) พ.ศ. 2526 และมิได้รับยกเว้นภาษีการค้าตามมาตรา 5(8) การที่โจทก์นำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร มิใช่ผลิตสินค้าขึ้นเอง สินค้านี้มิใช่สินค้าตามมาตรา 7(4) อันจะต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 1.5

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างปี พ.ศ. 2525 ถึง 2527 โจทก์ได้ผลิตสินค้าทองเหลืองเส้น หน้าตัดรูปตัวที ตัวแอล รูปทรงกลมและรูปหกเหลี่ยม โจทก์ได้รับหนังสือแจ้งภาษีการค้าให้โจทก์เสียภาษีการค้าพร้อมเงินเพิ่ม โดยอ้างว่าโจทก์เป็นผู้ประกอบการค้าประเภทการค้า 1 ชนิด 1(ก) ผลิตทองเหลือง รูปตัวที และรูปตัวแอลซึ่งเป็นสินค้าตามบัญชีที่ 1 หมวด 4(6) โจทก์ไม่เห็นด้วยกับการประเมินดังกล่าว จึงได้ยื่นอุทธรณ์คัดค้านการประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ คณะกรรมการได้วินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์โจทก์ ขอให้พิพากษาว่าการประเมินภาษีการค้าของจำเลยที่ให้โจทก์เสียเป็นเงิน1,370,232 บาท กับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ไม่ชอบให้เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยดังกล่าว
จำเลยให้การว่า สินค้าของโจทก์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการก่อสร้างและเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการทำเครื่องเรือน ตามบัญชีที่ 2หมวด 4(1)(3) ท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517ซึ่งแก้ไขโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 133) พ.ศ. 2526 โจทก์ต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 3 ของรายรับ และนับตั้งแต่วันที่29 พฤศจิกายน 2526 เป็นต้นไป สินค้าของโจทก์ต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 5 ของรายรับ ตามมาตรา 7(2)(ข) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า(ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีการค้า (ฉบับที่ 142)พ.ศ. 2526 การประเมินของเจ้าพนักงานของจำเลยชอบด้วยกฎหมายคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ก็ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลภาษีอากรกลาง พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า(ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517 ซึ่งใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่ 28 เมษายน 2526บัญชีที่ 1 หมวด 4 บัญญัติว่า “วัตถุก่อสร้างและเครื่องเรือน…(1)ฯลฯ (6) กลอน บานพับ คานเหล็ก เหล็กฉาก ผลิตภัณฑ์โลหะใด ๆที่มิได้ผลิตจากสินค้าตาม(4)” สำหรับสินค้าตาม (4) ได้แก่ เหล็กเส้นและลวดเหล็ก จะเห็นได้ว่า กลอน บานพับ คานเหล็ก เหล็กฉากเป็นวัสดุที่ทำขึ้นเพื่อใช้ในการก่อสร้าง แต่หาใช่เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องใช้ในการก่อสร้างทุกรายไม่ ฉะนั้น ผลิตภัณฑ์โลหะที่บัญญัติต่อท้าย กลอน บานพับ คานเหล็ก และเหล็กฉากดังกล่าวก็ต้องมีลักษณะทำนองเดียวกัน คือใช้ในการก่อสร้าง แม้การก่อสร้างบางอย่างไม่ได้ใช้ของดังกล่าว ของดังกล่าวยังถือว่าเป็นวัตถุที่ทำขึ้นเพื่อใช้ในการก่อสร้าง และต่อมาได้มีการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 133) พ.ศ. 2526 ซึ่งมีผลบังคับหลังจากวันที่ 28 เมษายน 2526 ได้กำหนดสินค้าในบัญชีที่ 1 หมวด 4วัตถุก่อสร้างและเครื่องเรือน (4) (5) (6) ว่า ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการก่อสร้างที่ไม่เข้าลักษณะตามหมวดนี้ ลวดหนาม ลวดตาข่าย ตะปูสลัก แป้นเกลียว กลอน บานพับ คานเหล็ก หรือเหล็กฉาก และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการทำเครื่องเรือน เฉพาะที่นำเข้าในราชอาณาจักร และได้กำหนดในบัญชีที่ 2 เพิ่มเติมหมวด 4 วัสดุก่อสร้าง และเครื่องเรือน(1) (2) (3) ว่า ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการก่อสร้าง ลวดหนาม ลวดตาข่ายตะปู สลัก แป้นเกลียว กลอน บานพับ คานเหล็ก หรือเหล็กฉากและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำเครื่องเรือน ที่มิได้ผลิตจากสินค้าตามหมวด 4(4) (5) หรือ (6) ของบัญชีที่ 1 เฉพาะที่ผลิตในราชอาณาจักรฉะนั้น ผลิตภัณฑ์สินค้าทองเหลืองหน้าตัดรูปตัวทีผู้ซื้อนำไปใช้คั่นในการปูพื้นหินขัด หินอ่อน เป็นส่วนประกอบในการตกแต่งพื้นอาคารและสินค้าทองเหลืองหน้าตัดรูปตัวแอลผู้ซื้อนำไปทำคิ้วเครื่องเรือนและติดขอบบันได เป็นวัสดุที่ทำขึ้นเพื่อใช้ในการก่อสร้างและทำเครื่องเรือน แม้สินค้าดังกล่าวของโจทก์จะมิใช่สิ่งที่จำเป็นในการก่อสร้างและทำเครื่องเรือนก็ตาม ก็ถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการก่อสร้างและทำเครื่องเรือนแล้ว จึงเป็นสินค้าตามบัญชีที่ 1 หมวด 4(6) ท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517และบัญชี 2 หมวด 4(1)(3) ท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 133) พ.ศ. 2526 และมิได้รับยกเว้นภาษีการค้าตามมาตรา 5(8) แห่งพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวแต่อย่างใด ที่โจทก์อ้างว่าสินค้าดังกล่าวโจทก์ได้เคยสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรเสียภาษีการค้าเพียงร้อยละ 1.5 ก็เป็นกรณีที่โจทก์นำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร มิใช่โจทก์ผลิตสินค้าขึ้นเองภายในราชอาณาจักร ดังนั้น โจทก์จึงต้องเสียภาษีตามอัตราที่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดไว้ และสินค้าพิพาทที่โจทก์ผลิตนี้ก็มิใช่สินค้าตามมาตรา 7(4) แห่งพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าวในขณะนั้นอันจะต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 1.5 อีกด้วย ที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษามานั้นชอบแล้ว อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share