คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 510/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีระบุจำนวนเงินและอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความที่ให้จำเลยชำระแก่โจทก์ตรงตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นตามคำขอของโจทก์ การออกหมายบังคับคดีจึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 275 และไม่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติตามมาตรา 296 การที่จำเลยอ้างว่าได้ชำระหนี้ให้โจทก์บางส่วนแล้ว โจทก์ก็มิได้รับรองว่าได้รับชำระหนี้ไว้และแม้เป็นความจริงก็ยังมีหนี้ที่จำเลยต้องชำระแก้โจทก์อยู่อีกจำเลยจึงต้องไปว่ากล่าวกับโจทก์เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหากจะยกเอามาเป็นเหตุให้ศาลยกเลิกหมายบังคับคดีหรืองดการบังคับคดีหาได้ไม่

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ และจำเลยที่ ๒ ร่วมกันชำระเงินจำนวน ๑,๐๒๑,๖๐๙.๔๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ ๓,๐๐๐ บาท จำเลยทั้งสองไม่ชำระ โจทก์ขอให้ศาลตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยทั้งสอง ศาลชั้นต้นได้ออกหมายบังคับคดีตามคำขอของโจทก์
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่า จำเลยทั้งสองได้ชำระเงินให้โจทก์ไปแล้ว ๑๕๐,๐๐๐ บาท แต่โจทก์กับทนายโจทก์ยื่นคำร้องเท็จต่อศาลชั้นต้นว่า จำเลยทั้งสองยังไม่ได้ชำระหนี้ ศาลชั้นต้นหลงเชื่อจึงได้ออกหมายบังคับคดีให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้ทั้งหมดตามคำพิพากษาขอให้ยกเลิกหมายบังคับคดีและงดการบังคับคดีไว้ก่อน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลออกหมายบังคับคดีไปตามที่โจทก์ขอตามคำพิพากษา จึงไม่มีเหตุที่จะยกเลิกหมายบังคับคดี ให้ยกคำร้องค่าคำร้องเป็นพับ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นว่า ศาลชั้นต้นได้ออกหมายบังคับคดีระบุจำนวนเงินและอัตราดอกเบี้ยนับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์รวมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความที่ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระแก่โจทก์ตรงตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นตามคำขอของโจทก์ดังนั้น การออกหมายบังคับคดีดังกล่าวของศาลชั้นต้นจึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๗๕ แล้ว หาได้ออกหมายบังคับคดีโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติตามมาตรา ๒๙๖ แห่งประมวลกฎหมายดังกล่าวไม่ ส่วนที่จำเลยทั้งสองอ้างว่าได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้แก่โจทก์แล้วจำนวน ๑๕๐,๐๐๐ บาท แม้เป็นความจริงก็เป็นเพียงการชำระหนี้บางส่วนเท่านั้น คงมีหนี้ที่จำเลยทั้งสองจะต้องชำระแก่โจทก์อยู่อีกและที่จำเลยทั้งสองอ้างว่าได้ชำระหนี้ให้โจทก์แล้วบางส่วนดังกล่าว โจทก์ก็ไม่รับรองว่าได้รับชำระหนี้ไว้แล้วดังที่จำเลยทั้งสองอ้าง จึงเป็นเรื่องที่จำเลยทั้งสองจะต้องไปว่ากล่าวกับโจทก์เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก จะยกเอามาเป็นเหตุให้ศาลยกเลิกหมายบังคับคดีหรืองดการบังคับคดีหาได้ไม่ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน.

Share