คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2489

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การสั่งขยายระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ จะสั่งได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ และสั่งก่อนสิ้นระยะเวลา เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัย
การที่ผู้อุทธรณ์ไม่วางเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องเสียแทนอีกฝ่ายหนึ่ง ในอายุความอุทธรณ์โดยไม่รู้เท่าถึงการนั้น ไม่นับว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษที่ศาลจะสั่งขยายเวลาวางเงินได้
ศาลสั่งรับอุทธรณ์ไว้แล้ว แต่ผู้อุทธรณ์วางเงินค่าธรรมเนียมที่จะใช้แทนอีกฝ่ายหนึ่ง เมื่อพ้นอายุอุทธรณ์ก็ถือว่าเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ย่อยาว

คดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี จำเลยจึงยื่นอุทธรณ์ในวันสุดท้ายของอายุอุทธรณ์ แต่มิได้วางเงินค่าธรรมเนียมค่าทนายอันต้องชำระตามคำพิพากษาในวันยื่น ศาลสั่งรับอุทธรณ์ในวันนั้นวันต่อมาศาลชั้นต้นขยายเวลาให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลใน 15 วันนับแต่ทราบคำสั่ง

โจทก์คัดค้านว่าศาลชั้นต้นสั่งเช่นนั้นไม่ชอบ

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าแม้อุทธรณ์ของจำเลยยื่นในกำหนดก็ดีเมื่อการวางเงินค่าธรรมเนียมมีระยะเวลาที่ต้องวางพร้อมกับอุทธรณ์ เมื่อไม่วางพร้อมและศาลสั่งขยายเมื่อพ้นระยะเวลาแล้วและกรณีก็ไม่มีเหตุสุดวิสัย อุทธรณ์ของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายพิพากษาให้ยก

จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 23 อำนาจขยาย ย่น ระยะ เวลาเช่นว่านี้จะทำได้ เมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ และศาลมีคำสั่งหรือคู่ความมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลานั้น เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัย เมื่อปรากฏว่าศาลชั้นต้นสั่งขยายเมื่อสิ้นระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียม และตามข้ออ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ไม่เป็นพฤติการณ์พิเศษดังนี้จึงไม่เข้าบังคับแห่ง มาตรา 23

เมื่อ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 229 บังคับให้วางเงินค่าธรรมเนียมพร้อมกับอุทธรณ์ การสั่งขยายระยะเวลาจะทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ สั่งก่อนหรือในวันยื่นอุทธรณ์ แต่ปรากฏว่าศาลมิได้สั่งภายในระยะเวลาที่กล่าวนี้กรณีก็ไม่ปรากฏเหตุสุดวิสัยอุทธรณ์ของจำเลยจึงไม่เป็นอุทธรณ์อันชอบด้วยกฎหมาย จึงพิพากษายืนศาลอุทธรณ์

Share