คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 509/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การขอแก้ชื่อเจ้าทรัพย์นั้นถือว่าเป็นการขอแก้รายละเอียด เมื่อจำเลยไม่ได้หลงข้อต่อสู้ ศาลอนุญาตให้แก้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันปล้นกระบือของนายไหม ขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นพิจารณาได้ความว่าวันโจทก์หานายไหมเอากระบือของนายทองไปเลี้ยงเวลา ๑๖ น. ชาย ๕ คนซึ่งเป็นจำเลยนี้ ๕ คน ผู้ร้ายคนหนึ่งใช้ปืนจ่อหน้าอกนายไห อีก ๔ คนเข้าจับกระบือ แล้วผู้ร้ายทั้งหมดก็ไล่กระบือไป จึงพิพากษาว่าจำเลยผิดกฎหมายอาณามาตรา ๓๐๑ ให้จำคุกคนละ ๑๕ ปี
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ฟังว่าข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้ง ๓ กับพวกเป็นผู้ร้ายปล้นกระบือไปจากนายไหมผู้เลี้ยง ข้อว่าเมื่อสืบพะยานโจทก์ได้ความว่ากระบือของนายทองโจทก์จึงขอฟ้อง ศาลอนุญาต เป็นการผิดต่อประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๖๔ เห็นว่า เป็นการขอแก้รายละเอียดไม่ถือว่าจำเลยเสียเปรียบ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทย์ฟ้องชอบแล้ว พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าฎีกาในข้อศาลไม่ควรอนุญาตให้โจทย์ฟ้องว่าเป็นกระบือของนายทอง ฟังไม่ขึ้น เพราะการขอแก้ฟ้องเช่นนี้เป็นการขอแก้รายละเอียด จำเลยไม่ได้หลงข้อต่อสู้แต่ประการใด โจทก์แก้ได้ดุจคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ ส่วนข้อเท็จจริงก็ฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้ร้ายรายนี้ จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง

Share