แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าพนักงานจับผู้ลักเล่นการพนันในบ้านคนอื่นโดยใช้กำลังพังประตูบ้านและทำร้ายเขา มีผิดตามาตราข้างบน ลักษณปกครองท้องที่ พ.ศ.2457
ย่อยาว
คดีนี้ได้ความว่าจำเลยไปจับพวกลักเล่นการพนัน แต่พวกเล่นการพนันหนี จำเลยสงสัยว่าจะหนีข้ามไปทางบ้านโจทก์ โดยปีนหลังคาตึกโจทก์ก็มี เจ้าพนักงานตำรวจจึงพังประตูตึกชั้นล่างของโจทก์ๆ ร้องห้ามก็ไม่ฟัง พวกตำรวจเข้ามาในบ้านโจทก์แล้วจับโจทก์ที่ ๓ ใส่กุญแจตำรวจคนหนึ่งผลักโจทก์ที่ ๒ ล้ม พอจำเลยได้ฟังคำชี้แจงของโจทก์แล้วก็สั่งให้ถอดกุญแจมือโจทก์ที่ ๓ โจทก์ที่ ๑-๓ พูดตัดพ้อ จำเลยที่ ๑ โกรธจึงสั่งให้ตำรวจจับใส่กุญแจมือใหม่แล้วก็สั่งให้ปล่อยอีก จำเลยที่ ๒ เปนคนพังประตูบ้านโจทก์และทำร้ายโจทก์ที่ ๓ เปนรอยฟกช้ำ ดังนี้
ศาลจังหวัดเชียงใหม่ตัดสินว่าจำเลยที่ ๑ มีผิดตาม ม.๒๗๐ ( เสื่อมเสียอิสระภาพ ) จำคุก ๑ วันปรับ ๒๐ บาท แต่ให้ยกอาญาจำคุกเสียจำเลยที่ ๒ มีผิดฐานมีอาวุธบุกรุกเข้าบ้านโจทก์ตาม ม.๓๒๙ ตอน ๒ และ ๓๒๔ กะทงหนึ่งและตาม ม.๓๓๘ ข้อ ๓ อีกกะทงหนึ่ง ให้จำคุก ๑ เดือน ปรับ ๘๐ บาท และยกอาญาจำคุกเสีย
ศาลอุทธรณ์แก้ว่าจำเลยที่ ๒ ไม่มีผิดให้ปล่อยไป
โจทก์ฎีกา ( ๑ ) ขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๒ ( ๒ ) ศาลยกอาญาจำเลยที่ ๑ ผิดด้วยมาตรา ๔๐
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยที่ ๒ ทำการนอกหน้าที่ที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำ จึงตัดสินยืนตามศาลจังหวัด แต่ฎีกาข้อ ( ๒ ) นั้น ศาลมีอำนาจจะยกอาญาจำคุกได้ ดังมีฎีกาที่ ๕๔๖/๖๒ เปนบันทัดฐานแล้ว