คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5089/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้ธนาคาร ก.ไม่มีวัตถุประสงค์ในการเล่นกีฬา แต่การเล่นกีฬาก็เป็นนโยบายตามระเบียบของธนาคาร ก.เพื่อให้พนักงานผ่อนคลายความตึงเครียด อันจะส่งผลให้การปฏิบัติงานของพนักงานที่ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อการประชาสัมพันธ์ทั้งภายในและภายนอกธนาคาร การแข่งขันกีฬามีผลให้งานของธนาคารตามวัตถุประสงค์สามารถดำเนินการไปด้วยดี เมื่อโจทก์ลงแข่งขันกีฬาฟุตบอลตามคำสั่งของผู้จัดการสาขาของธนาคาร ก. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา ถือได้ว่าการเล่นกีฬาฟุตบอลของโจทก์เป็นการทำงานให้นายจ้าง เมื่อโจทก์ประสบอันตรายในขณะแข่งขันกีฬาฟุตบอลจึงเป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้นายจ้าง จำเลยต้องรับผิดจ่ายเงินทดแทนให้โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาสุราษฎร์ธานี ได้รับเงินเดือนเดือนละ 5,430 บาทค่าครองชีพเดือนละ 300 บาท ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้กำหนดให้มีการแข่งขันกีฬาเป็นประจำทุกปี เมื่อลูกจ้างไปแข่งขันกีฬาถือว่าเป็นการปฏิบัติงานให้ธนาคารผู้เป็นนายจ้าง ผู้จัดการธนาคารสาขาสุราษฎร์ธานี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้โจทก์เป็นนักกีฬาฟุตบอลประจำสาขาสุราษฎร์ธานี เพื่อแข่งขันกีฬาประจำปี 2531เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2531 โจทก์ได้แข่งขันฟุตบอลกับทีมสาขาพังงาขณะแข่งขันโจทก์ประสบอันตรายกระดูกขาซ้ายหัก ต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลทักษิณและลาหยุดทำงานเป็นเวลา 57 วันโจทก์ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลเป็นเงิน 3,735 บาท โจทก์ไม่สามารถทำงานได้เป็นเวลา 57 วัน มีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทน ร้อยละ 60 ของค่าจ้างรายเดือนเป็นเงิน 6,532.20 บาท กระดูกหน้าแข้งซ้ายของโจทก์หักทำให้อวัยวะส่วนนี้หมดสมรรถภาพในการทำงาน โจทก์มีสิทธิได้รับเงินทดแทนอัตราร้อยละ 60 ของค่าจ้างรายเดือนมีกำหนด 1 ปีเป็นเงิน 41,256 บาท โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอรับเงินทดแทนจากพนักงานเงินทดแทน พนักงานเงินทดแทนมีคำสั่งว่า โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับเงินทดแทนเพราะมิได้ประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้นายจ้างโจทก์อุทธรณ์คำสั่งคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนมีคำวินิจฉัยยืนตามคำสั่งของพนักงานเงินทดแทนโจทก์เห็นว่า คำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนไม่ถูกต้องเพราะโจทก์ได้ประสบอันตรายเนื่องจากทำงานให้นายจ้าง จึงมีสิทธิได้รับเงินทดแทนตามกฎหมายขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของอธิบดีจำเลย ตามหนังสือที่ มท.1111/7411 ลงวันที่3 เมษายน 2532 ให้จำเลยจ่ายเงินทดแทนแก่โจทก์รวมจำนวน51,523.20 บาท
จำเลยให้การว่า โจทก์ประสบอันตรายในขณะแข่งขันกีฬาฟุตบอลไม่ใช่เป็นการปฏิบัติงานในหน้าที่ของนายจ้าง เพราะธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรนายจ้างของโจทก์ ไม่มีวัตถุประสงค์ในการแข่งขันกีฬาและไม่ได้จ้างโจทก์มาเพื่อการแข่งขันกีฬาธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจ่ายเงินสมทบแก่จำเลยตามลักษณะการเสี่ยงในประเภทกิจการของธนาคารไม่ได้จ่ายในประเภทกิจการกีฬาจำเลยจึงไม่ต้องจ่ายเงินทดแทนแก่โจทก์ เงินทดแทนเพราะแข้งซ้ายหักทำให้หย่อนสมรรถภาพในการทำงานที่โจทก์เรียกมาร้อยละ 60 ของค่าจ้างรายเดือนมีกำหนด 1 ปีนั้น ไม่ปรากฎหลักฐานเลยว่าอวัยวะของโจทก์ได้เสื่อมสมรรถภาพในการทำงานโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับเงินทดแทนของให้พิพากษายกฟ้อง
ระหว่างการพิจารณาของศาลแรงงานกลาง โจทก์แถลงว่าไม่ติดใจเรียกร้องค่าทดแทนเนื่องจากหย่อนสมรรถภาพในการทำงาน
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนและคำสั่งอธิบดีกรมแรงงานที่ มท.1111/7411ลงวันที่ 3 เมษายน 2532 ให้จำเลยจ่ายเงินจำนวน 10,267.20 บาทแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “จำเลยอุทธรณ์ว่าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรไม่มีวัตถุประสงค์ในการเล่นกีฬา การประสบอันตรายของโจทก์จึงไม่ถือว่าประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้นายจ้าง และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ตกลงกับจำเลยจ่ายเงินสมทบโดยระบุลักษณะว่าประกอบกิจการประเภทธนาคารจำเลยจึงไม่ต้องจ่ายเงินทดแทนให้โจทก์นั้น ได้ความว่าโจทก์เป็นลูกจ้างประจำของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรประจำอยู่ที่สาขาจังหวัดสุราษฎร์ธานี โจทก์ได้รับคำสั่งจากผู้จัดการสาขาจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่งตั้งให้เป็นนักกีฬาฟุตบอลเพื่อแข่งขันกีฬาประจำปีของธนาคารตามนโยบายของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรซึ่งให้ถือว่าการแข่งขันกีฬาดังกล่าวเป็นการทำงานของนายจ้าง เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2531โจทก์ได้ลงแข่งขันกีฬาฟุตบอลของธนาคารและประสบอันตรายแข้งซ้ายหักโจทก์ต้องหยุดทำงานและเข้ารักษาที่โรงพยาบาล เห็นว่า แม้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ไม่มีวัตถุประสงค์ในการเล่นกีฬา แต่การเล่นกีฬาก็เป็นนโยบายตามระเบียบของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเพื่อให้พนักงานผ่อนคลายความตึงเครียด อันจะส่งผลให้การปฏิบัติงานของพนักงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อการประชาสัมพันธ์ทั้งภายในและภายนอกธนาคารการแข่งขันกีฬามีผลให้บานของธนาคารตามวัตถุประสงค์สามารถดำเนินการไปด้วยดีเมื่อโจทก์ลงแข่งขันกีฬาฟุตบอลตามคำสั่งของผู้จัดการสาขาสุราษฎร์ธานีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาถือได้ว่าการเล่นกีฬาฟุตบอลของโจทก์เป็นการทำงานให้นายจ้างเมื่อโจทก์ประสบอันตรายในขณะแข่งขันกีฬาฟุตบอล จึงเป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้นายจ้าง ส่วนปัญหาที่ว่าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้จ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนประเภทกิจการสถาบันการเงิน ไม่ได้จ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนประเภทกิจการกีฬานั้น ก็เป็นกรณีที่กฎหมายคุ้มครองแรงงานกำหนดหลักเกณฑ์ในการเรียกเก็บเงินสมทบกองทุนเงินทดแทน ตามความเสี่ยงของประเภทกิจการเท่านั้น มิใช่จำกัดว่าสำนักงานกองทุนเงินทดแทนจะจ่ายเงินทดแทนต่อเมื่อลูกจ้างได้ประสบอันตรายเฉพาะกิจการนั้นโดยตรง จะเห็นได้ว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรดำเนินธุรกิจด้านธนาคารกิจการของธนาคารนั้นปกติคือนั่งทำงานอยู่บนโต๊ะในธนาคารซึ่งแทบไม่มีโอกาสที่ลูกจ้างจะประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน จะมีผลเป็นว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจะต้องจ่ายแต่เงินสมทบ โดยพนักงานไม่มีโอกาสได้รับเงินทดแทนเลย ดังนั้น การทำงานของพนักงานธนาคารจึงไม่จำกัดเฉพาะเรื่องการเงินเพียงอย่างเดียว จะต้องมีงานอื่น ๆด้วย เช่นการทำงานของพนักงานขับรถหรือการแข่งขันกีฬาเพื่อส่งเสริมสุขภาพของพนักงานด้วย การเล่นกีฬาฟุตบอลของโจทก์จึงไม่ได้ผิดไปจากประเภทกิจการของนายจ้างโจทก์แต่อย่างใด จำเลยจึงไม่หลุดพ้นจากความรับผิดที่จะต้องจ่ายเงินทดแทนให้โจทก์ ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาเพิกถอนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนและให้จำเลยจ่ายเงินทดแทนให้โจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share