คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5070/2552

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินมีโฉนด จำเลยยึดถือและครอบครองโฉนดที่ดินของโจทก์และปิดประกาศขายทอดตลาดโดยเจตนาทุจริต ฉ้อฉล ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้ส่งมอบโฉนดที่ดินคืนแก่โจทก์ โดยโจทก์มิได้ขอให้แสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือมีข้อพิพาทเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในที่ดิน จึงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ศาลแขวงไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 17 ประกอบด้วย มาตรา 25 (4)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 1432 และ 1433 ตำบลบางพลัด อำเภอบางพลัด กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าว เดิมบริษัท วี.จี.ไอ. โกบอล มีเดีย จำกัด เป็นโจทก์ฟ้องโจทก์ในคดีนี้เป็นจำเลยฐานละเมิด ขับไล่ และเรียกค่าเสียหายรวม 2 คดี คือ คดีหมายเลขดำที่ 5796/2545 และคดีหมายเลขดำที่ 5797/2545 ของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ต่อมาศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้พิพากษายกฟ้องโจทก์ในคดีดังกล่าว คดีถึงที่สุด ต่อมาจำเลยได้ทำการยึดและครอบครองโฉนดที่ดินทั้ง 2 โฉนด ของโจทก์ดังกล่าว และประกาศขายทอดตลาดโดยอ้างว่าเป็นการยึดในคดีหมายเลขดำที่ 5797/2545 คดีหมายเลขแดงที่ 2605/2546 ของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ โจทก์ถือว่าการกระทำของจำเลยมีเจตนาทุจริต ฉ้อฉลกระทำต่อโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย โจทก์จึงต้องอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 ขอศาลได้โปรดบังคับให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่1432 และ 1433 ตำบลบางพลัด อำเภอบางพลัด กรุงเทพมหานคร คืนให้แก่โจทก์ในสภาพเรียบร้อย ขอให้จำเลยชำระค่าธรรมเนียมศาลแทนโจทก์ด้วย
ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องแล้ว วินิจฉัยว่า โจทก์เพียงขอให้จำเลยส่งมอบเอกสารโฉนดที่ดินคืนจากจำเลย ผลของคดีไม่ทำให้กรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นเปลี่ยนแปลงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ศาลนี้ไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี ให้ยกฟ้อง คืนค่าขึ้นศาล
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ วรรคหนึ่ง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว มีปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์เพียงว่า ศาลชั้นต้น (ศาลแขวงตลิ่งชัน) มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีโจทก์หรือไม่ เห็นว่า โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 1432 และโฉนดเลขที่ 1433 ตำบลบางพลัด อำเภอบางพลัด กรุงเทพมหานคร จำเลยยึดถือและครอบครองโฉนดที่ดินดังกล่าวของโจทก์และปิดประกาศขายทอดตลาด โดยเจตนาทุจริต ฉ้อฉล ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้ส่งมอบโฉนดที่ดินดังกล่าวคืนแก่โจทก์ โดยโจทก์มิได้ขอให้แสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือมีข้อพิพาทเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในที่ดินแต่อย่างใด จึงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ศาลแขวงไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 17 ประกอบด้วยมาตรา 25 (4) ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งชอบแล้ว อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ

Share