คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5045/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้จะฟังได้ว่าจำเลยอยู่ในวงการพนันไฮโลว์ด้วยก็ตาม แต่วงการพนันไฮโลว์ที่เกิดเหตุอยู่ที่เพิงขายอาหารซึ่งตั้งอยู่บนทางสาธารณะ หน้าอู่รถโดยสารประจำทาง ซึ่งประชาชนทั่วไปมีความชอบธรรมจะเข้าไปได้ ที่เกิดเหตุจึงเป็นสาธารณสถาน ต้องด้วยข้อยกเว้นตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 6 ที่มิให้สันนิษฐานว่าจำเลยเป็นผู้เข้าเล่นการพนันด้วยเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธตลอดมาตั้งแต่ชั้นจับกุม ชั้นสอบสวน จนถึงชั้นพิจารณา จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้ได้ความว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง เมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ ศาลก็ต้องพิพากษายกฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามกับพวกเล่นการพนันไฮโลว์เอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๔, ๕, ๖, ๑๐, ๑๒, ๑๕ และสั่งให้จำเลยใช้เงินสินบนแก่ผู้นำจับกึ่งหนึ่งของจำนวนค่าปรับ
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๔, ๕, ๖, ๑๒ ปรับคนละ ๑,๔๐๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ ให้จำเลยทั้งสามใช้เงินสินบนแก่ผู้นำจับกึ่งหนึ่งของจำนวนเงินค่าปรับ
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าจำเลยทั้งสามได้ร่วมกับพวกเล่นการพนันไฮโลว์ตามฟ้องของโจทก์หรือไม่โจทก์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุมจำเลยทั้งสามคือ ร้อยตำรวจโทเกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ สิบตำรวจเอกไพศาล รักทอง และจ่าสิบตำรวจประสิทธิ์ หามนตรี มาเบิกความเป็นพยานว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุจำเลยทั้งสามกับพวกอีก ๗ คน ที่จับได้ และอีก ๔-๕ คนที่หลบหนีไปได้ร่วมกันเล่นการพนันไฮโลว์ แต่พยานของโจทก์ทั้ง ๓ ปากนี้ไม่มีผู้ใดยืนยันว่าเห็นจำเลยทั้งสามขณะเล่นการพนันดังกล่าว โดยร้อยตำรวจโทเกียรติพงศ์เบิกความทำนองว่า เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุผู้ที่เล่นการพนันได้หลบหนีจึงเข้าจับกุม ส่วนสิบตำรวจเอกไพศาลและจ่าสิบตำรวจประสิทธิ์เบิกความว่า ไม่เห็นว่าจำเลยทั้งสามเล่นการพนันกันอย่างไร ใครจะเป็นเจ้ามือก็ไม่ทราบ ส่วนที่บันทึกคำให้การของผู้ต้องหารวม ๗ คนซึ่งถูกจับกุมพร้อมกับจำเลยทั้งสามตามเอกสารหมาย จ.๓ ถึง จ.๙ ระบุว่า จำเลยทั้งสามได้ร่วมเล่นการพนันไฮโลว์ด้วยนั้น ก็ปรากฏจากคำเบิกความของผู้ต้องหาสามในเจ็ดคนที่โจทก์นำมาสืบว่า จำเลยทั้งสามมิได้ร่วมเล่นการพนันไฮโลว์ด้วยแต่อย่างใด ข้อเท็จจริงจึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสามได้ร่วมเล่นการพนันไฮโลว์ตามฟ้อง และแม้จะฟังได้ว่าจำเลยทั้งสามอยู่ในวงการพนันไฮโลว์ดังกล่าวด้วยก็ตาม แต่ก็ปรากฏจากคำเบิกความของร้อยตำรวจโทเกียรติพงศ์ สิบตำรวจเอกไพศาล และจ่าสิบตำรวจประสิทธิ์ว่า ที่เกิดเหตุเป็นเพิงขายอาหารตั้งอยู่บนทางสาธารณะซึ่งประชาชนทั่วไปมีความชอบธรรมที่จะเข้าไปได้ จึงเป็นสาธารณสถาน ต้องด้วยข้อยกเว้นตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๖ ที่มิให้สันนิษฐานว่าจำเลยทั้งสามเป็นผู้เข้าเล่นพนันด้วย เมื่อจำเลยทั้งสามปฏิเสธตลอดมาตั้งแต่ชั้นจับกุม ชั้นสอบสวน จนถึงชั้นศาลจึงเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้ได้ความว่าจำเลยทั้งสามกระทำผิดตามฟ้อง เมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ คดีจึงไม่อาจลงโทษจำเลยทั้งสามได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์นั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share