แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 55, 78 ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกฟ้อง แม้โจทก์ฎีกาในข้อกฎหมายก็ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา(ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2532 มาตรา 13
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๔, ๕๕, ๗๘ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๐๑ มาตรา ๓ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๖, ๘ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๓๐ มาตรา ๓ กฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๒๒) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒ ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯพ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๔๗, ๗๗ จำคุก ๑ เดือน ปรับ ๑,๐๐๐ บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๑๕ วันปรับ ๕๐๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙,๓๐ โทษจำคุกรอไว้ ๒ ปี ริบของกลาง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ ของกลางคืนเจ้าของ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฎีกาว่า พลุสดุดส่องแสงแบบเอ็ม.๔๙ เอ.๑ จำนวน ๑ ลูก ที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเป็นเครื่องกระสุนปืน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๕๕, ๗๘ ที่แก้ไขแล้ว พิเคราะห์แล้วเห็นว่าข้อหาความผิดดังกล่าว ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษายกฟ้องโจทก์ จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒๐ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๓๒) มาตรา ๑๓ ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาโจทก์ย่อมไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายกฎีกาโจทก์