แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยตั้ง โรงงานใช้ เครื่องจักรมีกำลังรวมทั้งหมดเป็นจำนวนถึง 52.2 แรงม้า ใช้ คนงานถึง 50 คน ทำการปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นรวม 3 ราย ทำการผลิตเสื้อผ้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ถือ ได้ ว่าเป็นความผิดร้ายแรง ไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษให้จำเลย โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยว่ากระทำการปลอมเครื่องหมายการค้ามีชื่อ สำหรับกระดุม และพลาสติกสำหรับใช้แขวน ไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษ จึงริบกระดุมและพลาสติกสำหรับใช้ แขวนของกลางที่มีเครื่องหมายการค้าดังกล่าวไม่ได้ ส่วนผ้าที่ตัด เป็นตัว เสื้อแล้ว แต่ยังไม่ได้เย็บ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐาน ปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น ผ้าดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการปลอมเครื่องหมายการค้า จึงไม่อาจริบได้ และการที่โจทก์ขอให้ริบสิ่งของอื่นอีกหลายรายการของกลางนั้น เพียงเท่านี้ไม่อาจทราบว่าของกลางคืออะไรบ้างและเกี่ยวกับการกระทำความผิดอย่างไร จึงไม่อาจริบได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้กระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกันโดยจำเลยได้ตั้งโรงงานและดำเนินงานประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นซึ่งได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้ภายในราชอาณาจักรหลายราย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2512 มาตรา 5, 8, 12, 43, 44ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 91, 273 และริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรงงานพ.ศ. 2512 มาตรา 5, 8, 12, 43, 44 (ที่แก้ไขแล้ว)ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 91, 273 (ที่แก้ไขแล้ว) วางโทษตามมาตรา 43 วรรคแรก ปรับ 70,000 บาท ตามมาตรา 44 วรรคแรกจำคุก 8 เดือน และปรับ 50,000 บาท ตามมาตรา 273, 91 กรรมละ 4เดือน ปรับ 2,000 บาท รวม 6 กรรม รวมจำคุก 32 เดือน และปรับ132,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณานับเป็นเหตุบรรเทาโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 เห็นสมควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 16 เดือน และปรับ 66,000 บาท โทษจำคุกเห็นสมควรรอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 ในกรณีที่จำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30 ของกลางริบ
โจทก์อุทธรณ์ขอไม่ให้รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ในความผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าให้จำคุก กระทงละ 4 เดือน รวม 3 กระทงเป็นจำคุก 12 เดือน รวมโทษในความผิดฐานตั้งและประกอบกิจการโรงงานไม่รับอนุญาตด้วยแล้ว เป็นจำคุก 20 เดือนและปรับ 70,000 บาทจำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 แล้วคงจำคุก 10 เดือน และปรับ 35,000 บาท ในกรณีที่จำเลยไม่ชำระค่าปรับให้กักขังไม่เกิน 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 30 ความผิดที่ถูกจำคุกไม่ปรับและไม่รอการลงโทษให้จำเลยนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดร้ายแรงหรือไม่และสมควรรอการลงโทษจำเลยหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยตั้งโรงงานใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมทั้งหมดเป็นจำนวนถึง 52.2 แรงม้าใช้คนงานถึง 50 คน ทำการปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นรวม 3 รายทำการผลิตเสื้อผ้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมดังกล่าวเป็นจำนวนมากซึ่งถือได้ว่าเป็นความผิดร้ายแรง ไม่สมควรรอการลงโทษให้จำเลยที่จำเลยฎีกาอ้างว่า จำเลยใช้จักรเย็บผ้าจำนวน 32 คัน รวมกำลังแรงม้าได้อย่างมากที่สุดก็เพียง 10.25 แรงม้าเท่านั้นและจักรเย็บผ้าของจำเลยแต่ละคันมีกำลังเพียง 0.25 และ 0.33แรงม้า ซึ่งเป็นที่ทราบทั่วไปในวงการอุตสาหกรรมการตัดเย็บเสื้อผ้าว่าจักรแต่ละคันจะมีกำลังแรงม้าเพียง 0.25 หรือ 0.33 แรงม้ามิใช่ 45.5 แรงม้า ดังที่โจทก์ฟ้องแต่อย่างใดนั้น เห็นว่าข้อเท็จจริงที่จำเลยอ้างมานี้เป็นข้อเท็จจริงที่ขัดกับคำให้การที่จำเลยรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้อง ซึ่งไม่อาจจะรับฟังได้ทั้งการปลอมเครื่องหมายการค้านี้ จำเลยได้ทำการผลิตสินค้าขายเป็นจำนวนมาก ที่ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจลงโทษจำเลยมานั้น เห็นว่าเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งรูปคดีแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น ส่วนที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ริบของกลางบางรายการ ได้แก่กระดุมมีเครื่องหมายการค้ารูปจระเข้และอักษรโรมันว่า LACOSTE จำนวน 10,000 ถุง พลาสติกสำหรับใช้แขวนมีเครื่องหมายการค้าเป็นรูปจระเข้ ใช้ติดคอเสื้อจำนวน100 อัน นั้น เห็นว่า โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยว่ากระทำการปลอมเครื่องหมายการค้าดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจึงริบของกลางดังกล่าวไม่ได้ ส่วนผ้าที่ตัดเป็นตัวเสื้อแล้วแต่ยังไม่ได้เย็บจำนวน 35 มัด มัดละ 15 พับนั้นเห็นว่าโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น ผ้าของกลางนี้ไม่เกี่ยวกับการปลอมเครื่องหมายการค้า จึงไม่ริบและการที่โจทก์ขอให้ริบสิ่งของอื่นอีกหลายรายการของกลางนั้นเห็นว่าเพียงเท่านี้ไม่อาจทราบว่าของกลางคืออะไรบ้างและเกี่ยวกับการกระทำความผิดอย่างไร จึงไม่อาจริบได้เช่นเดียวกัน”
พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ริบกระดุมมีเครื่องหมายการค้ารูปจระเข้จำนวน 10,000 ถุง พลาสติกมีเครื่องหมายการค้ารูปจระเข้ใช้ติดคอเสื้อจำนวน 100 อัน ผ้าที่ตัดเป็นตัวเสื้อแล้วแต่ยังไม่ได้เย็บมัดละ 15 พับ จำนวน 35 มัด และสิ่งของอื่นอีกหลายรายการดังที่โจทก์บรรยายฟ้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.