แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยใช้มีดเหน็บปลายแหลม ใบมีดกว้างประมาณ 4 นิ้วยาวประมาณ 1 ฟุต และด้ามยาวประมาณ 1 คืบ ซึ่งเป็นอาวุธที่ร้ายแรงฟันตรงลงมาที่ศีรษะผู้เสียหายซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญถ้ากระโหลกศีรษะแตกถึงสมองอาจทำให้ถึงตายได้ ทั้งจำเลยยังใช้มีดแทงผู้เสียหายซ้ำอีก แสดงว่ามีเจตนาฆ่า เมื่อผู้เสียหายไม่ตายจึงมีความผิดฐานพยานยามฆ่า
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 228, 80, 33 กับขอให้รับมีดเหน็บปลายแหลมของกลาง
จำเลยไม่ได้ให้กลับถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 80 จำคุก 10 ปี กับริบมีดของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงเชื่อได้ว่า จำเลยใช้มีดของกลางฟันและแทงผู้เสียหายจริง มีดดังกล่าวเป็นมีดเหน็บปลายแหลมใบมีดกว้างประมาณ 4 นิ้วยาวประมาณ 1 ฟุต และด้ามยาวประมาณ1 คืน ซึ่งเป็นอาวุธที่ร้ายแรง จำเลยฟันตรงลงมาที่ศีรษะของผู้เสียหายซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญและปรากฎจากคำเบิกความของนายแพทย์สมพจน์ ว่า การใช้มีดขนาดเท่ามีดของกลางฟันที่ศีรษะถ้ากะโหลกศีรษะแตกถึงสมองอาจทำให้ถึงความตายได้ ทั้งเมื่อจำเลยฟันผู้เสียหายแล้ว ยังใช้มีดแทงผู้เสียหายซ้ำอีกแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาที่จะฆ่าผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายตามที่โจทก์ฟ้อง”
พิพากษายืน