แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
การที่จำเลยนำชี้ให้เจ้าพนักงานศาลทำแผนที่พิพาทในคดีอื่นว่าที่ดินพิพาทในคดีนี้เป็นของจำเลยและมรดกของสามีจำเลยคนละครึ่งนั้น การกระทำของจำเลยเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์แล้ว
ย่อยาว
คดีทั้งสามสำนวนศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษารวมกันโดยเรียกโจทก์ตามลำดับสำนวนว่า โจทก์ที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 โจทก์ทั้งสามฟ้องว่าโจทก์ทั้งสามเป็นเจ้าของที่ดินคนละ 1 แปลง ที่ดินทั้งสามแปลงตั้งอยู่ตำบลตาเป๊ก อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์เมื่อเดือนมีนาคม 2527 จำเลยได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งให้จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนายหุนสามีของจำเลยซึ่งถึงแก่กรรม โดยกล่าวอ้างว่าที่ดินของโจทก์ทั้งสามเป็นทรัพย์สินมรดกของนายหุน และในเดือนมิถุนายน 2527 จำเลยในฐานะส่วนตัวและฐานะผู้จัดการมรดกของนายหุนได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบุตรของจำเลยทั้งสองคนตามคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 323/2527 หมายเลขแดงที่ 938/2527 ของศาลชั้นต้น โดยกล่าวอ้างและนำชี้ให้เจ้าพนักงานศาลทำแผนที่พิพาทว่าที่ดินของโจทก์ทั้งสามเป็นของจำเลยและมรดกของนายหุนคนละครึ่ง ทำให้โจทก์ทั้งสามได้รับความเสียหายขอให้พิพากษาว่าที่ดินทั้งสามแปลงดังกล่าวเป็นของโจทก์ทั้งสามจำเลยทั้งสามสำนวนให้การทำนองเดียวกันว่า ที่ดินพิพาททั้งสามแปลงเป็นของจำเลยและนายหุนสามีของจำเลย โดยจำเลยกับนายหุนทำมาหาได้ร่วมกันเป็นเวลาหลายสิบปีมาแล้วได้ครอบครองร่วมกันมาและแจ้งการครอบครองในนามนายหุนและได้ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในนามของนายหุน เมื่อประมาณ 10 กว่าปีมานี้นายหุนถึงแก่กรรมลง จำเลยและบุตรได้ร่วมกันครอบครองทำกินในที่ดินทั้งสามแปลงจนถึงปัจจุบันไม่มีผู้ใดโต้แย้งคัดค้านนายหุนไม่เคยเอาที่ดินตีใช้หนี้และไม่มีสิทธินำที่ดินดังกล่าวไปตีใช้หนี้หรือขายโดยพลการ การกระทำของนายหุนจึงไม่ผูกพันจำเลย ที่จำเลยนำเจ้าพนักงานศาลไปรังวัดเพื่อทำแผนที่พิพาทเป็นการทำไปตามสิทธิจึงไม่โต้แย้งต่อสิทธิของโจทก์ทั้งสาม ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่ดินหมายเลข 2 หมายเลข 4 และหมายเลข 5 ตามแผนที่พิพาทเอกสารหมาย จ.1 เป็นของโจทก์ที่ 1ที่ 2 และที่ 3 ตามลำดับ จำเลยทั้งสามสำนวนอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยทั้งสามสำนวนฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยไม่ได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์ทั้งสาม โจทก์ทั้งสามจึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น เห็นว่าการที่จำเลยนำชี้ให้เจ้าพนักงานศาลทำแผนที่พิพาทในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 938/2527 ว่าที่ดินพิพาทในคดีนี้เป็นของจำเลยและมรดกของนายหุนคนละครึ่งนั้นการกระทำของจำเลยเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ทั้งสามแล้ว”
พิพากษายืน