แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีที่จำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาทต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรก ที่ใช้บังคับอยู่ในขณะจำเลยยื่นฎีกา ฎีกาในปัญหาว่า พยานหลักฐานโจทก์เป็นพิรุธ ท.ไม่ได้ยกที่ดินพิพาทตีใช้หนี้เงินกู้และมอบการครอบครองให้โจทก์ ค่าเสียหายของโจทก์มีไม่มากเท่าคำฟ้อง คดีโจทก์ขาดอายุความ เพราะโจทก์ทราบว่าจำเลยที่ 6 เข้าครอบครองทำกินในที่ดินพิพาทตั้งแต่ฤดูทำนาปี2530 แต่เพิ่งมาฟ้องเมื่อเกิน 1 ปีแล้วนั้น ล้วนเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงทั้งสิ้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เดิมที่ดินพิพาทเป็นของนายทองมี วงศ์ใหญ่แต่นายทองมีได้ขายที่ดินพิพาทตีใช้หนี้ให้โจทก์แล้ว ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ขับไล่จำเลยทั้งหกและบริวารออกจากที่ดินพิพาท ให้จำเลยทั้งหกใช้ค่าเสียหายและให้เพิกถอนน.ส.3ก. ที่ดินพิพาท
จำเลยทั้งหกให้การว่า ที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 5โดยรับมรดกมาจากนายทองมี วงศ์ใหญ่ และได้ตกลงขายที่ดินพิพาทให้จำเลยที่ 6 แล้วนายทองมีไม่เคยยกที่ดินพิพาทตีใช้หนี้โจทก์ จำเลยที่ 6 ได้เข้าครอบครองทำกินมาเป็นเวลาเกินกว่า 1 ปีคดีขาดอายุความแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ขับไล่จำเลยทั้งหกและบริวารออกจากที่ดินพิพาท ให้เพิกถอน น.ส.3ก. ที่ดินพิพาท และให้จำเลยทั้งหกใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยทั้งหกฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้จำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกามีเพียง 150,800 บาท จึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรก ที่ใช้บังคับอยู่ในขณะจำเลยทั้งหกยื่นฎีกาแล้ว ที่จำเลยทั้งหกฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ไม่ถูกต้องเพราะพยานหลักฐานโจทก์เป็นพิรุธ นายทองมีไม่ได้ยกที่ดินพิพาทตีใช้หนี้เงินกู้และมอบการครอบครองที่ดินพิพาทให้โจทก์ ค่าเสียหายของโจทก์มีไม่มากเท่าในคำฟ้อง และคดีโจทก์ขาดอายุความ เพราะโจทก์ทราบว่าจำเลยที่ 6 เข้าครอบครองทำกินในที่พิพาทตั้งแต่ฤดูการทำนาปี2530 แต่เพิ่งมาฟ้องเมื่อเกิน 1 ปีแล้วนั้น ล้วนเป็นฎีกาที่โต้แย้งในปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้น ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามบทกฎหมายดังกล่าวที่ศาลชั้นต้นรับฎีกาจำเลยทั้งหกมานั้นจึงไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาจำเลยทั้งหมด