แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยขุดทำลายทำนบของผู้อื่นเพื่อระบายน้ำไม่ให้ท่วมทางตามคำสั่งของกำนัน โดยเจ้าของทำนบได้ตกลงไว้กับทางอำเภอรับจะระบายน้ำให้แล้ว ย่อมจะฟังว่าจำเลยกระทำผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ไม่ได้
ย่อยาว
คดีสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกันมา โจทก์ฟ้องใจความอย่างเดียวกันว่า จำเลยได้ร่วมกันขุดทำลายทำนบกั้นน้ำของนายอ่อนและนายมี ทำให้ราษฎรขาดน้ำไม่ได้ปักดำทำนา ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๘, ๓๖๐, ๘๓
จำเลยทั้งสองสำนวนให้การว่า ได้ขุดทำลายทำนบตามฟ้องจริง แต่ต่อสู้ว่ากำนันสั่งให้ทำ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๘, ๘๓ ให้ปรับคนละ ๑๐๐ บาท
นายลุน จำเลยที่ ๒ ผู้เดียวอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เชื่อว่าจำเลยกับพวกได้ทำลายทำนบโดยคำสั่งของนายเจียมกำนัน จึงไม่มีความผิด พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า นายเจียมกำนันได้นัดให้พวกขุดทำนบของผู้เสียหายและเจ้าของทำนบไปพร้อมกันยังที่เกิดเหตุ เพื่อจะทำการระบายน้ำออกจากทำนบให้ลงลำร่องแคนตามหนังสือทำนบไปพร้อมกันยังที่เกิดเหตุ เพื่อจะกระทำการระบายน้ำจากทำนบไหลลงลำร่องแคนตามหนังสือของอำเภอที่แนะนำมา เพื่อให้เกวียนเดินได้และได้ให้พวกจำเลยขุดสันทำนบลึกราว ๑ ฟุต เพื่อระบายน้ำให้ไหลออกเท่านั้น เหตุทีทำนบพังมากกว่าทีพวกเขาขุด อาจเป็นโดนน้ำมากถูกกระแสน้ำกัดเซาะพังไปอีก รูปคดีจึงเป็นที่เห็นได้ว่าจำเลยได้ขุดทำนบตามที่กำนันอนุญาตให้ขุดระบายน้ำลงลำร่องแคนเพื่อไม่ให้ท่วมทางตามที่นายผุยกับพวกเจ้าของทำนบได้ตกลงไว้ กับอำเภอแล้ว จะฟังว่าจำเลยกระทำผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ยังไม่ได้ ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ให้ยกฎีกาโจทก์