คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5019/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จะให้ศาลชั้นต้นยกคดีโจทก์ขึ้นพิจารณาใหม่ได้นั้น โจทก์จะต้องแสดงให้เห็นว่า มีเหตุสมควรที่มาศาลในวันนัดไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 166 วรรคสอง ประกอบมาตรา 181 คดีนี้ศาลชั้นต้นนัดสอบถามคำให้การจำเลยและนัดสืบพยานโจทก์ โดย ได้ส่งหมายนัดให้โจทก์ตามที่อยู่ที่อยู่ที่ปรากฏในคำฟ้อง และพ.ทนายความโจทก์ตามที่อยู่ที่ปรากฏในใบแต่งทนายความของพ.ตั้งแต่วันที่9โดยมีช.ซึ่งอยู่ในสถานที่เดียวกับโจทก์และทนายความโจทก์เป็นผู้รับหมายไว้แทนการส่งหมายนัดของศาลจึงเป็นไปโดยชอบและต้องถือว่าโจทก์และทนายความโจทก์ได้ทราบวันนัดของศาลก่อนถึงวันนัดแล้ว การที่โจทก์อ้างว่า พ.ทนายความโจทก์ทราบนัดล่าช้าเพราะเหตุสำนักงานใหญ่และสำนักงานฝ่ายกฎหมายของโจทก์อยู่คนละที่กันก็ดี และ พ.เดินทางไปภูมิลำเนาเดิมเพื่อพิธีไหว้สารทจีนตั้งแต่ก่อนวันที่รับหมายไว้แทนนั้นก็ดี ล้วนแต่เป็นวิธีปฏิบัติภายในของโจทก์และทนายความโจทก์มิใช่กรณีที่โจทก์มีเหตุสมควรที่มาศาลในวันนัดไม่ได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 จำเลยให้การปฏิเสธในวันนัดสอบถามคำให้การจำเลยและนัดสืบพยานโจทก์ซึ่งตรงกับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2538 โจทก์ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาตามกำหนดนัดโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องหรือร้องขอเลื่อนคดี ศาลชั้นต้นจึงยกฟ้อง
โจทก์ยื่นคำร้องว่า ทนายความโจทก์เพิ่งจะทราบว่าจะต้องมาศาลเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2538 เพราะในการส่งหมายนัดเจ้าพนักงานศาลได้ส่งไปที่สำนักงานใหญ่ของโจทก์ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 1 ซอยยาสูบ 1ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ต่อมาเจ้าหน้าที่แผนกสารบรรณโจทก์ได้จัดส่งหมายไปตามลำดับจนกระทั่งส่งมาที่ฝ่ายกฎหมายของโจทก์ และแผนกสารบรรณฝ่ายกฎหมายเพิ่งจะรายงานให้ทนายความโจทก์ในวันก่อนครบกำหนด แต่ทนายความโจทก์ไม่อยู่ในขณะรายงานต้องไปทำพิธีไหว้ญาติผู้ใหญ่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนตามประเพณีจีนโจทก์มีความประสงค์จะดำเนินคดีแก่จำเลยขอให้ศาลพิจารณาใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่ามีเหตุสมควรที่ศาลชั้นต้นจะยกคดีโจทก์ขึ้นพิจารณาใหม่หรือไม่เห็นว่าการที่จะให้ศาลชั้นต้นยกคดีโจทก์ขึ้นพิจารณาใหม่ได้นั้นโจทก์จะต้องแสดงให้เห็นว่า มีเหตุสมควรที่มาศาลในวันนัดไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคสอง ประกอบมาตรา 181 คดีนี้ศาลชั้นต้นนัดสอบถามคำให้การจำเลยและนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2538 เวลา 9 นาฬิกา โดยได้ส่งหมายนัดให้โจทก์ตามที่อยู่ที่ปรากฏในคำฟ้อง และนายพงษ์ศักดิ์ วุ่นคงทนายความโจทก์ตามที่อยู่ที่ปรากฏในใบแต่งทนายความของนายพงษ์ศักดิ์ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2537 โดยมีนายพรชัยซึ่งอยู่ในสถานที่เดียวกับโจทก์และทนายความโจทก์เป็นผู้รับหมายไว้แทน การส่งหมายนัดของศาลจึงเป็นไปโดยชอบและต้องถือว่าโจทก์และทนายความโจทก์ได้ทราบวันนัดของศาลก่อนวันนัดแล้ว การที่โจทก์อ้างว่านายพงษ์ศักดิ์ทนายความโจทก์ทราบนัดล่าช้าเพราะเหตุสำนักงานใหญ่และสำนักงานฝ่ายกฎหมายของโจทก์อยู่คนละที่กัน และนายพงษ์ศักดิ์เดินทางไปภูมิลำเนาเดิมเพื่อพิธีไหว้สารทจีนตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2538ล้วนแต่เป็นวิธีปฏิบัติภายในของโจทก์และทนายความโจทก์ หาใช่กรณีที่โจทก์มีเหตุสมควรที่มาศาลในวันนัดไม่ได้
พิพากษายืน

Share