แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยลักลอบปรับคลื่นวิทยุคมนาคมของโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบุคคลอื่นที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตแล้วนำออกให้บริการแก่บุคคลทั่วไปโดยเรียกเงินค่าตอบแทนนั้น แม้จำเลยจะกระทำในวันเวลาเดียวกัน แต่ก็เป็นการกระทำที่สามารถแยกจากกันเป็นราย ๆ ตามจำนวนเครื่องวิทยุคมนาคมที่จำเลยใช้ลักลอบปรับคลื่นและนำออกให้บริการแก่บุคคลทั่วไปโดยเรียกเงินค่าตอบแทนได้
จำเลยนำเครื่องวิทยุคมนาคมที่จำเลยมีไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวน 3 เครื่อง มาปรับแต่งคลื่นความถี่ให้ใช้ได้กับคลื่นความถี่ของ ย. ซึ่งได้รับอนุญาตจากการสื่อสารแห่งประเทศไทยให้เช่าใช้บริการแต่ผู้เดียว จำเลยมีเจตนากระทำความผิดแยกเป็นราย ๆ ไป ตามจำนวนเครื่องวิทยุคมนาคมที่จำเลยใช้ลักลอบปรับคลื่นวิทยุคมนาคม การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันรวม 3 กระทง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา ๓๓๔, ๓๓๕, ๘๓, ๙๑, ๓๓ พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๖, ๒๒, ๒๓, ๒๔, ๒๖ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. ๒๔๖๙ มาตรา ๒๗, ๒๗ ทวิ พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ. ๒๔๘๙ มาตรา ๔, ๕, ๖, ๗, ๘, ๙ ริบของกลางทั้งหมดไว้ใช้ในราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข และให้จำเลยกับพวกร่วมกันคืนหรือใช้เงินจำนวน ๙๗๕,๔๑๙.๕๐ บาท แก่ผู้เสียหาย จ่ายเงินรางวัลแก่ผู้จับตามกฎหมาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๖ วรรคหนึ่ง, ๒๓, ๒๖ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. ๒๔๖๙ มาตรา ๒๗ ทวิ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตาม ป.อ. มาตรา ๙๑ ฐานรับไว้โดยรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ปรับ ๘๐,๘๓๒ บาท ฐานมี ใช้เครื่องวิทยุคมนาคมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก ๖ เดือน ฐานรบกวนขัดขวางต่อการวิทยุคมนาคม จำคุก ๖ เดือน รวมจำคุก ๑๒ เดือน และปรับ ๘๐,๘๓๒ บาท คำรับของจำเลยในชั้นจับกุม มีประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้แก่จำเลยหนึ่งในสาม ตาม ป.อ. มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๘ เดือน และปรับ ๕๓,๘๘๘ บาท ริบของกลางทั้งหมดไว้ใช้ในราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ป.อ. มาตรา ๒๙, ๓๐ ให้จ่ายเงินรางวัลร้อยละยี่สิบห้าของราคาค่าปรับแก่ผู้จับ ตาม พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ. ๒๔๘๙ มาตรา ๕ (๒), ๘ วรรคหนึ่ง ส่วนข้อหาอื่นและคำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๔ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จ่ายเงินรางวัลร้อยละยี่สิบของราคาค่าปรับแก่ผู้จับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยลักลอบปรับคลื่นวิทยุคมนาคมของโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบุคคลอื่นที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตแล้วนำออกให้บริการแก่บุคคลทั่วไปโดยเรียกเงินค่าตอบแทนนั้น แม้จำเลยจะกระทำในวันเวลาเดียวกัน แต่ก็เป็นการกระทำที่สามารถแยกจากกันเป็นราย ๆ ตามจำนวนเครื่องวิทยุคมนาคมที่จำเลยใช้ลักลอบปรับคลื่นและนำออกให้บริการแก่บุคคลทั่วไปโดยเรียกเงินค่าตอบแทนได้ เมื่อจำเลยนำเครื่องวิทยุคมนาคมที่จำเลยมีไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวน ๓ เครื่อง มาปรับแต่งคลื่นความถี่ให้ใช้ได้กับคลื่นความถี่ของนายยุก ยู จัน ซึ่งได้รับอนุญาตจากการสื่อสารแห่งประเทศไทยให้เช่าใช้บริการแต่ผู้เดียว จำเลยมีเจตนากระทำความผิดแยกเป็นราย ๆ ไป ตามจำนวนเครื่องวิทยุคมนาคมที่จำเลยใช้ลักลอบปรับคลื่นวิทยุคมนาคม การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันรวม ๓ กระทง
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ ฐานมีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง, ๒๓ กระทงหนึ่ง ฐานกระทำให้เกิดการรบกวนหรือขัดขวางต่อการวิทยุคมนาคม ตามมาตรา ๒๖ รวม ๓ กระทง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๔.