คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4990/2531

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ในวันนัดสืบพยาน จำเลยที่ 3 ทนายจำเลยที่ 3 ขอเลื่อนคดีอ้างว่าจำเลยที่ 3 ป่วยเป็นโรคเลือดออกใต้เยื่อตาซ้ายไม่สามารถมาศาล มีใบรับรองแพทย์ทนายโจทก์แถลงคัดค้านว่าไม่ควรให้เลื่อนคดีเพราะจำเลยประวิงคดี โจทก์ไม่ได้คัดค้านว่าจำเลยที่ 3 มิได้ป่วยและคำร้องของทนายจำเลยที่ 3 ไม่เป็นความจริง ดังนี้จึงเชื่อว่าจำเลยที่ 3 ป่วย แพทย์ให้พักรักษาตัวมาศาลไม่ได้จริง นับว่าจำเลยที่ 3 มีเหตุจำเป็นในการขอเลื่อนคดี แม้จำเลยที่ 3 มิได้นำพยานมาเบิกความต่อศาลในวันนัดก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 3 ประวิงคดีและไม่มีพยานมาสืบ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยร่วมกันชำระเงินตามสัญญาขายลดเช็คพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยที่ 3 ให้การว่าจำเลยที่ 3 ไม่ต้องรับผิดตามฟ้อง
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 ที่ 5 ที่ 6 และที่ 7 ขาดนัดยื่นคำให้การ
จำเลยที่ 1 ที่ 4 ที่ 5 ที 6 และที่ 7 ขาดนัดพิจารณา
ระหว่างพิจารณา จำเลยที่ 2 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ และในวันนัดสืบพยานจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 3 ขอเลื่อนการพิจารณาคดีเพราะป่วยปวดตาและมีอาการบวมมาก ศาลชั้นต้นเห็นว่าพฤติการณ์ของจำเลยที่ 3 เป็นการประวิงคดีจึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยที่ 3 เลื่อนการพิจารณาคดี และถือว่าไม่มีพยานมาสืบ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงได้ความว่า เมื่อโจทก์สืบพยานโจทก์แล้วโจทก์แถลงหมดพยานโจทก์ ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานจำเลยที่ 3 ในวันที่ 8 สิงหาคม 2528 เวลา 9 นาฬิกา ถึงวันนัดทนายโจทก์และทนายจำเลยที่ 3 มาศาล ทนายจำเลยที่ 3 ยื่นคำร้องว่า จำเลยที่ 3 ป่วยปวดตามีอาการปวดมากไม่สามารถมาศาลในวันนี้ได้ ปรากฏตามใบรับรองแพทย์ซึ่งได้ยื่นมาพร้อมกับคำร้อง ขอเลื่อนการพิจารณาไปทนายโจทก์แถลงคัดค้านว่า ไม่ควรให้เลื่อนคดีเพราะจำเลยที่ 3 ประวิงคดี ศาลชั้นต้นเห็นว่า อาการป่วยของจำเลยที่ 3สามารถมาศาลได้ และจำเลยที่ 3 ไม่มีพยานอื่นมาศาลโดยไม่ได้ขอหมายเรียกพยานไว้ พฤติการณ์ของจำเลยที่ 3 เป็นการประวิงคดีจึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยที่ 3 เลื่อนคดีและถือว่าจำเลยที่ 3 ไม่มีพยานมาสืบ แล้วพิพากษาให้จำเลยที่ 3 แพ้คดี ดังนี้ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานจำเลยที่ 3 ในวันที่ 8สิงหาคม 2528 เวลา 9 นาฬิกา ถึงวันนัดทนายจำเลยที่ 3 ขอเลื่อนคดีอ้างว่าจำเลยที่ 3 ป่วยไม่สามารถมาศาล และส่งใบรับรองแพทย์ต่อศาลด้วย ซึ่งแพทย์ได้ตรวจร่างกายจำเลยที่ 3 แล้วเห็นว่าเป็นโรคเลือดออกใต้เยื่อตาซ้าย เห็นสมควรให้พักงานเพื่อรักษาตัวตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2528 ถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2528ทนายโจทก์แถลงคัดค้านว่าไม่ควรให้เลื่อนคดีเพราะจำเลยที่ 3ประวิงคดี โจทก์มิได้คัดค้านโดยตรงว่าจำเลยที่ 3 มิได้ป่วยทั้งมิได้คัดค้านว่าคำร้องของทนายจำเลยที่ 3 ไม่เป็นความจริงดังนี้จึงเชื่อได้ว่าจำเลยที่ 3 ป่วยเป็นโรคเลือดออกใต้เยื่อตาซ้ายแพทย์ให้พักรักษาตัว มาศาลไม่ได้จริง นับว่าจำเลยที่ 3มีเหตุจำเป็นในการขอเลื่อนคดี และพยานจำเลยที่ 3 ตามบัญชีพยานเป็นพยานนำหรือหมาย ฎีกาจำเลยที่ 3 ก็ว่า มิได้นำพยานมาศาลเพราะจำเลยที่ 3 ป่วยมาศาลไม่ได้ ได้ร้องขอเลื่อนคดีแล้ว ดังนั้นแม้จำเลยที่ 3 จะมิได้นำพยานมาเบิกความต่อศาลในวันนัดก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 3 ประวิงคดีและไม่มีพยานมาสืบ กรณีมีเหตุสมควรให้จำเลยที่ 3 เลื่อนคดีได้”
พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยที่ 3 ต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่

Share