คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4979/2550

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ค่าอ้างเอกสารเป็นค่าธรรมเนียมอื่น ๆ เมื่อไม่ปรากฏว่า โจทก์จงใจที่จะไม่ชำระค่าธรรมเนียมเช่นนี้ ก็ไม่มีบทกฎหมายจะให้ถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะอ้างเอกสารเป็นพยาน ตามบทบัญญัติใน ป.วิ.พ. มาตรา 87 ก็บัญญัติแต่เพียงว่า ห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความมิได้แสดงความจำนงที่จะอ้างอิงเท่านั้น ทั้งยังยกเว้นไว้ด้วยว่า ถ้าเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี แม้จะฝ่าฝืนบทบัญญัติในอนุมาตรานี้ก็ให้อำนาจศาลที่จะรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านี้ได้ ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นรับฟังพยานเอกสารของโจทก์ จึงไม่ใช่เรื่องที่ศาลชั้นต้นรับฟังพยานหลักฐานที่ไม่ชอบ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันและหรือแทนกันชำระเงินให้แก่โจทก์จำนวน 5,957,963.03 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 2,998,000 บาท และ 697,651.98 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระให้แก่โจทก์เสร็จสิ้นครบถ้วน หากจำเลยทั้งสองไม่ชำระหรือชำระไม่ครบถ้วนให้บังคับเอากับทรัพย์สินของจำเลยทั้งสองรวมทั้งทรัพย์จำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 13453 ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดของแก่น และที่ดินหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) เลขที่ 4997 ตำบลหนองไผ่ อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น พร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยทั้งสองนำเงินชำระหนี้โจทก์ หากขายทอดตลาดทรัพย์จำนองได้เงินไม่พอชำระหนี้ให้บังคับจำเลยทั้งสองชดใช้ส่วนที่ยังขาดอยู่จนกว่าจะครบ กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันและหรือแทนกันชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ด้วย
จำเลยที่ 1 ให้การขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 5,957,963.03 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีของต้นเงิน 3,695,651.98 บาท นับถัดจากวันฟ้อง (29 ตุลาคม 2544) เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากไม่ชำระหรือชำระไม่ครบถ้วนให้ยึดทรัพย์จำนองพร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาดนำเงินชำระหนี้โจทก์ หากได้เงินไม่พอชำระให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้โจทก์จนครบถ้วน กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 20,000 บาท
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า… ที่จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่ได้เสียค่าอ้างเอกสารต่อศาล จึงไม่อาจรับฟังพยานเอกสารที่โจทก์นำสืบได้นั้น เห็นว่า ค่าอ้างเอกสารเป็นค่าธรรมเนียมอื่นๆ เมื่อไม่ปรากฏว่า โจทก์จงใจที่จะไม่ชำระค่าธรรมเนียมเช่นนี้ ก็ไม่มีบทกฎหมายจะให้ถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะอ้างเอกสารเป็นพยาน ตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 ก็บัญญัติแต่เพียงว่า ห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความมิได้แสดงความจำนงที่จะอ้างอิงเท่านั้น ทั้งยังยกเว้นไว้ด้วยว่า ถ้าเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี แม้จะฝ่าฝืนบทบัญญัติในอนุมาตรานี้ก็ให้อำนาจศาลที่จะรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านี้ได้ ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นรับฟังพยานเอกสารของโจทก์ จึงไม่ใช่เรื่องที่ศาลชั้นต้นรับฟังพยานหลักฐานที่ไม่ชอบ อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน อุทธรณ์ข้ออื่นของจำเลยที่ 1 ล้วนแต่เพิ่งอ้างขึ้นมาในชั้นนี้ จำเลยที่ 1 ไม่ได้ให้การไว้ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share