คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 497/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยลักไก่เขาไปเจ้าทรัพย์ติดตามพบในเวลากระชั้นชิด แล้วแย่งไก่คืนจากจำเลย ๆ จึงทำร้ายเจ้าทรัพย์ เพราะเจ้าทรัพย์แย่งไก่ที่จำเลยลักไปคืนจากจำเลยย่อมเป็นการใช้กำลังทำร้ายเพื่อประสงค์จะเอาผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่จำเลยลักทรัพย์ตามความใน ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 298(3) จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานชิงทรัพย์ กรรมที่จำเลยกระทำการลักและทำร้ายร่างกายเจ้าทรัพย์นั้นเป็นกรรมที่ต่อเนื่องเรื่องเดียวกัน หาใช่ต่างกรรมต่างวาระกันไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยชิงทรัพย์ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๙๘,๒๙๙
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๙๙ จำคุก ๓ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดฐานลักทรัพย์ตามมาตรา ๒๙๓ ,จำคุก ๖ เดือน และฐานทำร้ายร่างกายตามมาตรา ๓๓๘ ปรับ ๓๐ บาท
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจปรึกษาคดีแล้ว ได้ความว่าเจ้าทรัพย์ได้ยินเสียงไก่ดิ้นที่ใต้ถุนเรือน จึงลงไปดู เห็นไก่หายไป ๑ ตัว ก็เข้าใจว่าคนลักเดินไปดู พ้นประตูบ้านสัก ๕ วา ก็พบจำเลยกำลับอุ้มไก่เดินไป จึงเรียกจำเลย ๆ ไม่ตอบกลับนั่งลง และได้ยินเสียงไก่ดิ้นที่ใต้ขาจำเลย ซึ่งเข้าใจว่าจำเลยนั่งทับไก่ไว้ เจ้าทรัพย์ถามว่าเสียงอะไร จำเลยตอบว่าไม่มีอะไรหรอก เจ้าทรัพย์ขอดู จำเลยไม่ให้ดู แล้วบอกว่าไก่ เจ้าทรัพย์ถามว่าเอามาจากใหน จำเลยว่าเอามาจากบ้านเหนือ เจ้าทรัพย์ขอดูอีก จำเลยก็ไม่ยอมให้ดู เจ้าทรัพย์เข้าแย่งไก่จำเลยมาได้ และจำได้ว่าเป็นไก่ของเจ้าทรัพย์ที่หาย พอเจ้าทรัพย์แย่งไก่มาได้ จำเลยก็ใช้หมัดชกหน้า ถูกหน้าเจ้าทรัพย์หลายที เจ้าทรัพย์ทิ้งไก่ ซึ่งปรากฎว่าถูกจำเลยหักคอตายแล้วนั้นลงไว้ และชกตอบทั้งร้องระบุว่าจำเลยลักไก่ด้วย ผู้ใหญ่บ้านจึงมายังที่เกิดเหตุ เจ้าทรัพย์ก็แจ้งเหตุให้ทราบดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยทำร้ายเจ้าทรัพย์เพราะเจ้าทรัพย์แย่งไก่จำเลยลักไปคืนมาจากจำเลย เป็นการใช้กำลังทำร้ายเพื่อประสงค์จะเอาผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่จำเลยลักทรัพย์ตามความใน ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๙๘(๓) กรรมที่จำเลยกระทำการลักทรัพย์ และทำร้ายเจ้าทรัพย์เป็นกรรมที่ต่อเนื่องเรื่องเดียวกัน หาใช่ต่างกรรมต่างวาระไม่ จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานชิงทรัพย์ จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share