คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปัญหาว่า คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ให้ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยแก้อุทธรณ์ของจำเลยที่ผิดพลาดมายื่นใหม่ภายในกำหนดระยะเวลาซึ่งแล้วแต่ศาลชั้นต้นจะเห็นสมควร นั้นเป็นการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลชั้นต้นตำหนิฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยเพราะพิมพ์ตัวเลขตอนย่อคำพิพากษาศาลชั้นต้นไขว้เขวไป หาใช่ตัวบรรยายอุทธรณ์แท้ไม่ ศาลชั้นต้นสั่งให้ทำมาใหม่ซึ่งต้องเข้าใจว่า ศาลสั่งโดยอาศัยอำนาจประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ประกอบด้วยมาตรา 15ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งศาลชอบที่จะกำหนดระยะเวลาถ้าศาลไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ก็พึงเข้าใจว่า ภายในระยะเวลาอันสมควรการที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้จำเลยแก้ฟ้องอุทธรณ์หรือยื่นฟ้องอุทธรณ์ใหม่ให้ถูกต้องตามที่ศาลชั้นต้นตำหนิ หาใช่เป็นการยืดเวลาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ไม่หากแต่เป็นเรื่องจะให้ยื่นอุทธรณ์ใหม่ตามที่สั่งไว้เดิมแล้วหรือไม่เท่านั้น (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2503)

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 16 ปี ฐานปล้นทรัพย์ จำเลยอุทธรณ์แต่ฟ้องอุทธรณ์ตอนย่อคำพิพากษาศาลชั้นต้นเขียนจำนวนเงินที่ให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ผิดไป ศาลชั้นต้นสั่งให้คืนอุทธรณ์ให้จำเลยทำมาใหม่ให้ถูกต้องต่อมาอีก 3 วัน ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอกำหนดวันเวลา 5 วัน เพื่อจะได้ทำอุทธรณ์มายื่นใหม่ ศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยมายื่นคำร้องเกินกำหนดเวลาแล้ว ไม่มีผลอย่างไร ยกคำร้องและถือว่าจำเลยมิได้อุทธรณ์

จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นกำหนดเวลาให้จำเลยแก้อุทธรณ์ที่ผิดมายื่นใหม่ศาลชั้นต้นอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟังและกำหนดเวลาให้จำเลยแก้อุทธรณ์ที่ผิดพลาดมายื่นใหม่ภายใน 10 วัน

อัยการโจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา โจทก์อุทธรณ์คำสั่งศาลฎีกาสั่งรับฎีกาเฉพาะข้อที่ว่าคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ให้ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยแก้อุทธรณ์ของจำเลยที่ผิดพลาดมายื่นใหม่ภายในกำหนดระยะเวลาซึ่งแล้วแต่ศาลชั้นต้นจะเห็นสมควร นั้น เป็นการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ศาลฎีกาประชุมใหญ่แล้วเห็นว่า ศาลชั้นต้นตำหนิฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยเพราะพิมพ์ตัวเลขไขว้เขวไป แต่ก็เป็นในตอนย่อคำพิพากษาศาลชั้นต้น หาใช่ตัวบรรยายอุทธรณ์แท้ไม่ ศาลชั้นต้นสั่งให้ทำมาใหม่ ซึ่งต้องเข้าใจว่าสั่งโดยอาศัยอำนาจ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ซึ่งนำมาใช้ในคดีนี้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ซึ่งศาลชอบที่จะกำหนดระยะเวลา ถ้าศาลไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ก็พึงเข้าใจว่าภายในระยะเวลาอันสมควร การที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้จำเลยแก้ฟ้องอุทธรณ์หรือยื่นฟ้องอุทธรณ์ใหม่ให้ถูกต้องตามที่ศาลชั้นต้นตำหนิ หาใช่เป็นการยืดเวลาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ไม่ หากแต่เป็นเรื่องจะให้ยื่นอุทธรณ์ใหม่ตามที่สั่งไว้เดิมแล้วหรือไม่เท่านั้น ที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้กำหนดเวลา ก็เพื่อจำเลยจะได้ยื่นอุทธรณ์ใหม่ตามคำสั่งศาลหาใช่ขอยืดกำหนดเวลาไม่ ที่ศาลชั้นต้นเข้าใจว่าเป็นการยืดเวลาเห็นจะเป็นเพราะศาลชั้นต้นแปลคำสั่งอันแรกว่า ให้ทำอุทธรณ์มาใหม่ในอายุความอุทธรณ์ แต่เมื่อศาลชั้นต้นมิได้สั่งไว้เช่นนั้น ประกอบทั้งการแปลเช่นนั้น ไม่สมเหตุสมผลในคดีนี้ จึงจะเข้าใจคำสั่งนั้นดังศาลชั้นต้นว่าหาชอบไม่

พิพากษายืน

Share