แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ปัญหาว่า คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ให้ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยแก้อุทธรณ์ของจำเลยที่ผิดพลาดมายื่นใหม่ภายในกำหนดระยะเวลาซึ่งแล้ว แต่ศาลชั้นต้นจะเห็นสมควร นั้น เป็นการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลชั้นต้นตำหนิฟ้องอุทธรณ์ขอจำเลยเพราะพิมพ์ตัวเลข ตอนย่อคำพิพากษาศาลชั้นต้นไขว้เขวไป หาใช่ตัวบรรยายอุทธรณ์แท้ไม่ ศาลชั้นต้นสั่งให้ทำมาใหม่ซึ่งต้องเข้าใจว่า ศาลสั่งโดยอาศัยอำนาจ ป.วิ.พ. มาตรา 18 ประกอบด้วยมาตรา 15 ป.วิ.อ. ซึ่งศาลชอบที่จะกำหนดระยะเวลา ถ้าศาลไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ก็พึงเข้าใจว่า ภายในระยะเวลาอันสมควร การที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้จำเลยแก้ฟ้องอุทธรณ์หรือยื่นฟ้องอุทธรณ์ใหม่ให้ถูกต้องตามที่ศาลชั้นต้นตำหนิ หาใช่เป็นยืดเวลา ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 ไม่ หากแต่เป็นเรื่องจะให้ยื่นอุทธรณ์ใหม่ตามที่สั่งไว้เดิมแล้ว หรือไม่เท่านั้น (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2503)
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย ๑๖ ปี ฐานปล้นทรัพย์ จำเลยอุทธรณ์ แต่ฟ้องอุทธรณ์ตอนย่อคำพิพากษาศาลชั้นต้นเขียนจำนวนเงินที่ให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ผิดไป ศาลชั้นต้นสั่งให้คืนอุทธรณ์ ให้จำเลยทำมาใหม่ให้ถูกต้อง ต่อ มาอีก ๓ วัน ทนายจำเลยยืนคำร้องขอยืดเวลา อีก ๕ วัน เพื่อจะได้ทำอุทธรณ์มายืนใหม่ ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยมายื่นคำร้องเกินกำหนดเวลาแล้ว ไม่มีผลอย่างไร ยกคำร้องและถือว่าจำเลยมิได้อุทธรณ์
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นกำหนดเวลาให้จำเลยแก้อุทธรณ์ที่ผิดมายืนใหม่ ศาลชั้นต้นอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟังและกำหนดเวลาให้จำเลยแก้อุทธรณ์ที่ผิดพลาดมายื่นใหม่ ภายใน ๑๐ วัน
อัยการโจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง ศาลฎีกาสั่งรับฎีกาเฉพาะข้อที่ว่าคำสั่งศาลอุทธรณ์ ที่ให้ศาลชั้นค้นกำหนดให้จำเลยแก้อุทธรณ์ ของจำเลยที่ผิดพลาดมายื่นใหม่ภายในกำหนดระยะเวลาซึ่งแล้วแต่ศาลชั้นต้นจะเห็นสมควรนั้น เป็นการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ศาลฎีกาประชุมใหญ่แล้วเห็นว่า ศาลชั้นต้นตำหนิฟ้องอุทธรณ์ ของจำเลยเพราะพิมพ์ตัวเลขไขว้เขวไป แต่ก็เป็นในตอนย่อคำพิพากษาศาลชั้นต้น หาใช่ตัวบรรยายอุทธรณ์แท้ไม่ ศาลชั้นต้นสั่งให้ทำมาใหม่ ซึ่งต้องเข้าใจว่าสั่งโดยอาศัยอำนาจ ป.วิ.พ. มาตรา ๑๘ ซึ่งนำมาใช้ในคดีนี้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๑๕ ซึ่งศาลชอบที่จะกำหนดระยะเวลา ถ้าศาลไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ก็พึงเข้าว่าภายในระยะเวลาอันสมควร การที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้จำเลยแก้ฟ้องอุทธรณ์หรือยื่นฟ้องอุทธรณ์ใหม่ให้ถูกต้องตามที่ศาลชั้นต้นตำหนิ หาใช่เป็นการยืดเวลาตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๓ ไม่ หากแต่เป็นเรื่องจะให้ยื่นอุทธรณ์ใหม่ตามที่สั่งไว้เดิมแล้วหรือไม่เท่านั้น ที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้กำหนดเวลาก็เพื่อจำเลยจะได้ยื่นอุทธรณ์ใหม่ตามคำสั่งศาล หาใช่ขอยึดกำหนดเวลาไม่ ที่ศาลชั้นต้นเข้าใจว่าเป็นการยึดเวลา เห็นจะเป็นเพราะศาลชั้นต้นแปลคำสั่งอันแรกว่า ให้ทำอุทธรณ์มาใหม่ในอายุความอุทธรณ์ แต่เมื่อศาลชั้นต้นมิได้สั่งไว้ เช่นนั้นประกอบทั้งกานแปลเช่นนั้น ไม่สมเหตุสมผลในมตินี้ จึงจะเข้าใจคำสั่งนั้นดังศาลชั้นต้นว่าหาชอบไม่
พิพากษายืน