แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีซึ่งศาลแขวงได้พิพากษาจนคดีถึงที่สุดให้ยกฟ้อง เพราะศาลแขวงไม่มีอำนาจที่จะพิจารณาพิพากษาได้นั้น โจทก์มีสิทธิที่จะนำคดีนั้นมาฟ้องต่อศาลซึ่งมีอำนาจใหม่ได้
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องว่า จำเลยปลอมหนังสือสำคัญในราชการและฉ้อโกง ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ และว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยได้อีก เพราะอัยการศาลแขวงพระนครใต้ได้ฟ้องจำเลยกับพวกเป็นจำเลยตต่อศาลแขวงพระนครใต้ตามคดีแดงที่ ๑๘๘๓/๒๔๙๒ ศาลพิพากษายกฟ้องคดีถึงที่สุดแล้ว
ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์ฟ้องซ้ำ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เดิมอัยการเคยเป็นโจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกรวม ๓ คน กระทำผิดอย่างเดียวกับคดีนี้ คดีนั้นศาลชั้นต้นเห็นว่า ศาลแขวงไม่มีอำนาจที่จะพิจารณาพิพากษา จึงพิพากษายกฟ้องและคดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้ขึ้นใหม่ศาลฎีกาเห็นว่าที่ศาลแขวงพิพากษาในคดีก่อน ไม่ใช่พิพากษาในความผิดที่ได้ฟ้อง เป็นแต่ศาลแขวงพิพากษาว่า โจทก์จะนำคดีนั้นมาฟ้องต่อศาลแขวงไม่ได้เท่านั้น สิทธิของโจทก์ยังมีที่จะฟ้องคดีนี้ได้ ไม่ระงับไปตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๓๙(๔) พิพากษายืน