แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผัวเมียต่างคนต่างอยู่คนละแห่งถึงแม้จะนานเท่าใดก็ไม่ขาดจากผัวเมียกัน ปัญหากฎหมาย สินสมรสไม่ใช่มฤดกฟ้องเกิน 1 ปีได้
ย่อยาว
โจทก์กับ ก.ได้เป็นสามีภรรยาอยู่กินกันที่บ้านเรือนของ ก.แล้ว ก.มาได้นางกลีบจำเลยเป็นภรรยาอีกคนหนึ่ง โจทก์อยู่กับ ก.ได้สัก ๕ ปีก็กลับไปอยู่บ้านเดิม ก.ก็ไปมาหาสู่เสมอ จนเกิดบุตรด้วยกัน ๖ คน ครั้นเมื่อ ๑๖-๑๗ ปีมานี้ ก.โกรธว่านางต่วนบุตรสาวซึ่งเกิดกับโจทก์ไปได้สามีเป็นจีนชาติไหหลำ ตามคำพะยานว่า ก.มีความแค้นจนถึงพูดตัดขาดไม่เป็นสามีภรรยากับโจทก์ แล้วก็ต่างไม่ไปมาหาสู่กันจน ก.ตาย โจทก์จึงฟ้องขอแบ่งสินเดิมแลสินสมรสของโจทก์จากจำเลยทั้ง ๓ ซึ่งเป็นภรรยาแลบุตร ก.เป็นเงิน ๒๗๙๑ บาท ( ก.ตายปลายปี พ.ศ.๒๔๖๙ )
ศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์ตัดสินว่า กิริยาที่โจทก์กับ ก.ไม่แสดงการติดต่อกันอย่างสามีภรรยา เป็นการให้เห็นว่าเขาทั้ง ๒ ได้อย่าขาดกันโดยพฤติการณ์แล้ว แลโจทก์ไม่มีสิทธิจะขอแบ่งสินสมรสได้ เพราะตั้งแต่ ก.กับโจทก์ขาดกันมาเกินกว่า ๑๐ ปี จึงให้ยกฟ้องโจทก์เสีย
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์กับ ก.หาได้ทำนิติกรรมอย่ากันไม่ แลตามพฤติการณ์ที่ได้ความมาเหตุผลยังไม่พอตามกฎหมายที่จะฟังว่าโจทก์กับ ก.ได้อย่าขาดจากสามีภรรยากัน เมื่อเป็นดังนี้ข้อตัดฟ้องของจำเลยเรื่องขาดอายุความจึงฟังไม่ขึ้น แต่ศาลล่างยังมิได้พิจารณาในประเด็นที่ว่าโจทก์ควรจะได้รับส่วนแบ่งเพียงไร จึงตัดสินกลับย้อนสำนวนให้ศาลเดิมสืบพะยานตามข้อหาแลข้อต่อสู้ แล้วตัดสินใหม่ตามรูปความ