แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยทำสัญญาประกันตัว อ. ซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชนไปจากพนักงานสอบสวน โดยตอนแรกพนักงานสอบสวนได้กำหนดค่าปรับกรณีผิดสัญญาประกันไว้เป็นเงิน150,000 บาท และคดีนั้นผู้เสียหายกับพวกเท่าที่พนักงานสอบสวนได้สอบสวนไปแล้วได้รับความเสียหายเป็นเงิน 164,000บาท ส่วนผู้เสียหายที่เหลือไม่ปรากฎว่าได้รับความเสียหายเท่าใดการที่หัวหน้าพนักงานสอบสวนกำหนดค่าปรับเมื่อผิดสัญญาเป็นเงิน 328,000 บาท เมื่อพิจารณาถึงพฤติการณ์แห่งคดีประกอบทางได้เสียหายของโจทก์แล้ว เป็นการกำหนดเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน ศาลมีอำนาจลดได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าปรับตามสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาที่จำเลยทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาไปจากการควบคุมของโจทก์เป็นจำนวน 342,693 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า จำเลยทำสัญญาประกันผู้ต้องหาไว้กับโจทก์ว่า ถ้าจำเลยผิดสัญญาจำเลยยินยอมให้เงินให้แก่โจทก์จำนวน 150,000 บาท ต่อมาโจทก์ได้แก้ไขจำนวนเงินในสัญญาเป็น328,000 บาท โดยจำเลยมิได้ยินยอมและมิได้รู้เรื่องด้วยสัญญาดังกล่าวจึงเป็นเอกสารปลอมตกเป็นโมฆะ ไม่มีผลบังคับจำเลยให้ต้องรับผิด
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 328,000บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงินจำนวน160,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า นายอุทัยถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ตอนแรกร้อยตำรวจโทวันศักดิ์พนักงานสอบสวนก็ได้กำหนดค่าปรับกรณีที่ผิดสัญญาประกันไว้เป็นเงินจำนวน 150,000 บาท เท่านั้นและในคดีอาญานั้นผู้เสียหายกับพวกเท่าที่ร้อยตำรวจโทวันศักดิ์ได้สอบสวนไปแล้วได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวน 164,000 บาท ส่วนผู้เสียหายที่เหลือไม่ปรากฎว่าได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงินอีกเท่าใด การที่หัวหน้าพนักงานสอบสวนกำหนดค่าปรับเมื่อผิดสัญญาประกันเป็นเงินจำนวน 328,000บาท นั้น ถ้าพิจารณาตามพฤติการณ์แห่งคดีดังกล่าวประกอบกับพิเคราะห์ถึงทางได้เสียของโจทก์ทุกอย่างอันชอบด้วยกฎหมายแล้วย่อมเห็นได้ว่าเป็นการกำหนดเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วนซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 ศาลมีอำนาจจะลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ ดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจลดเบี้ยปรับลงโดยให้จำเลยชำระค่าปรับจำนวน 160,000 บาทนั้นเป็นจำนวนค่าปรับที่เหมาะสมแล้ว
พิพากษายืน