คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4913/2556

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการจดทะเบียนรายการประเภทการจำนองและการไถ่ถอนจำนองระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 และที่ 3 เพิกถอนการขายฝากและการไถ่ถอนขายฝากระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 และที่ 4 และเพิกถอนการซื้อขายที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 5 ฝ่ายจำเลยให้การว่านิติกรรมทั้งหมดดังกล่าวกระทำโดยสุจริต เสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์โดยถูกต้องตามกฎหมาย จึงเป็นกรณีที่โจทก์ฟ้องโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเรียกร้องให้ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างกลับคืนมาเพื่อประโยชน์ของโจทก์เอง ซึ่งหากโจทก์ชนะคดีย่อมได้ที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวมาเป็นของตน จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ โจทก์จึงต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ตามราคาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนหนังสือสัญญาจำนองและการไถ่ถอนจำนองระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 และที่ 3 เพิกถอนการขายฝาก และการไถ่ถอนขายฝากระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 และที่ 4 เพิกถอนหนังสือสัญญาขายที่ดินโฉนดเลขที่ 10640 ตำบลสี่แยกมหานาค (ดุสิต) อำเภอดุสิต กรุงเทพมหานคร ระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 5 ให้สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครขีดฆ่ารายการจดทะเบียนทั้งหมด หากจำเลยทั้งห้าไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา และให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย 1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การ
จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ให้การขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณานางจินฐิฏา ผู้พิทักษ์ของโจทก์ ยื่นคำร้องขอเข้าดำเนินคดีแทน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์เสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์อย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ไม่ถูกต้อง จึงมีคำสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์อย่างคดีมีทุนทรัพย์
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ระหว่างนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ปรากฏว่าโจทก์ถึงแก่ความตาย นางจินฐิฏา ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ ศาลฎีกาอนุญาต
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่า ฟ้องโจทก์เป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้หรือไม่ เห็นว่า โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการจดทะเบียนรายการประเภทการจำนองและการไถ่ถอนจำนองระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 และที่ 3 เพิกถอนการขายฝากและการไถ่ถอนขายฝากระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 และที่ 4 และเพิกถอนการซื้อขายที่ดินโฉนดเลขที่ 10640 ตำบลสี่แยกมหานาค (ดุสิต) อำเภอดุสิต กรุงเทพมหานคร ระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 5 หากจำเลยทั้งห้าไม่ปฏิบัติตามให้ถือคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ให้การว่าการทำนิติกรรมดังกล่าวทั้งหมดกระทำโดยสุจริต เสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์โดยถูกต้องตามกฎหมาย จึงเป็นกรณีที่โจทก์ฟ้องโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเรียกร้องให้ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างกลับคืนมาเพื่อประโยชน์ของโจทก์เอง ซึ่งหากโจทก์ชนะคดีย่อมได้ที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวมาเป็นของตน จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง การที่โจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมทั้งหมด โจทก์จึงต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ตามราคาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 2,400,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนทุนทรัพย์ที่โจทก์เรียกร้อง คำพิพากษาศาลฎีกาที่โจทก์อ้างมาท้ายฎีกานั้น ข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์มานั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share