คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4910/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของจำเลยในชั้นอุทธรณ์ที่ยื่นครั้งแรกแล้วฟังว่า จำเลยมีที่ดิน 1 แปลงเนื้อที่ 20 ไร่ แม้จำเลยจะอ้างว่านำที่ดินไปจำนองเป็นประกันหนี้และยังไม่มีเงินไถ่ คืน ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนยากจนที่ไม่อาจเสียค่าธรรมเนียมศาลได้ จำเลยมิได้อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นคงยื่นคำร้องเพื่อให้ศาลอนุญาตให้ตนนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าเป็นคนยากจน แต่ข้ออ้างที่ขอให้ไต่สวนใหม่ปรากฏในคำร้องว่าเป็นเหตุเดียวกับที่อ้างไว้เดิม และศาลชั้นต้นวินิจฉัยไปแล้วทำให้เห็นว่าไม่น่าจะมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมแสดงให้เห็นฐานะของจำเลยนอกเหนือไปจากที่ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยไปแล้ว ดังนี้ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะมีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องขอให้พิจารณาคำขอใหม่ของจำเลยนั้น.

ย่อยาว

คดีเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่จำเลยไปออกรวมเอาที่ที่โจทก์มีสิทธิครอบครองเป็นการไม่ชอบ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3) ทะเบียนเล่ม 2 หน้า 66 สารบบเล่มเลขที่ 146 ตำบลกุดชุมแสง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ จำเลยขอฟ้องคดีอย่า>คนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยไม่ยากจน มีคำสั่งให้ยกคำร้อง ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำร้องขออนาถาของจำเลยใหม่ ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า พยานหลักฐานที่จำเลยจะเข้ามาให้ไต่สวนเพิ่มเติมอีกนั้น ไม่ได้สนับสนุนพยานหลักฐานที่ได้ไต่สวนไว้แล้วในการไต่สวนอนาถาครั้งแรกให้เห็นได้ว่าจำเลยเป็นคนยากจนถึงขนาดไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมได้ ดังที่ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งไปแล้วได้ ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องที่จำเลยขอให้พิจารณาคำขอใหม่ จึงชอบแล้ว ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย และถ้าจำเลยประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปก็ให้นำค่าธรรมเนียมศาลมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 15 วันนับแต่วันทราบคำสั่ง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาวินิจฉัยมีว่า สมควรที่จะไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ขอนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าเป็นคนยากจนหรือไม่ พิเคราะห์แล้วศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของจำเลยที่ยื่นครั้งแรกแล้วฟังว่าจำเลยมีที่ดิน 1แปลง เนื้อที่ 20 ไร่ แม้จำเลยจะอ้างว่านาที่ดินไปจำนองเป็นประกันหนี้และยังไม่มีเงินไถ่คืนก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนยากจนที่ไม่อาจเสียค่าธรรมเนียมของศาลได้ จำเลยมิได้อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น คงยื่นคำร้องเพื่อให้ศาลอนุญาตให้ตนนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าเป็นคนยากจน แต่ข้ออ้างที่ขอให้ไต่สวนใหม่ว่าตนเป็นคนยากจนนั้น ปรากฏในคำร้องว่าเป็นเหตุเดียวกับที่อ้างไว้เดิมและศาลชั้นต้นวินิจฉัยไปแล้ว พฤติการณ์ทำให้เห็นได้ในตัวว่าไม่น่าจะมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่จะแสดงให้เห็นฐานะของจำเลยนอกเหนือไปจากที่ศาลชั้นต้นได้มีคำวินิจฉัยไว้แล้ว ที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องขอให้พิจารณาคำขอใหม่ของจำเลยนั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืน ถ้าจำเลยประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปก็ให้นำค่าธรรมเนียมศาลมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ทราบคำพิพากษา.

Share