คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 49/2489

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ขนสุราจากตำบลหนึ่งไปยังตำบลอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ยังไม่ออกพ้นเขตต์ตำบล ก็ถือว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว ไม่ใช่พยายาม
(อ้างฎีกา 569/2488)

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องว่าจำเลยขนน้ำสุรา ๓๐ ดีกรีจำนวน ๓๐ ขวดเป็นน้ำสุรา ๑๘.๕๐ ลิตร จากตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรังจะไปตำบลกันตังอำเภอกันตัง โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ขอให้ลงโทษ จำเลยรับสารภาพ+
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์บรรยายฟ้องเป็นเพียงพอจะไปตำบลกันตัง เหตุเกิดเสียในตำบลทับเที่ยง จะถือว่าจำเลยขนสุราไปตำบลอื่นไม่ได้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า ที่จะเป็นผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จุลศักราช ๑๒๔๘ มาตรา ๑๑ นั้น ต้องได้ขนสุราออกนอกเขตต์ตำบลเดินไปถึงตำบลอื่นแล้วจึงจะเป็นความผิด ข้อเท็จจริงที่จำเลยรับปรากฎว่าจำเลยได้ขนสุรารายนี้แล้ว แต่ถูกจับเสียก่อนที่จะข้ามตำบลไปสำเร็จ การกระทำของจำเลย จึงเป็นผิดฐานพยายามเท่านั้น ให้ปรับ ๓๐ บาท
จำเลยฝ่ายเดียวฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พ.ร.บ.ภาษีชั้นในจุลศักราช ๑๒๔๘ มาตรา ๑๑ ว่า “ผู้ใดปรารถนาจะขนน้ำสุราจากตำบลหนึ่งไปถึงตำบลอื่น ก็ต้องมีหนังสือไปถึงนายอากรชั้นใน ฯลฯ” นั้นเห็นจุดประสงค์ชัดว่า กฎหมายบังคับให้ผู้ประสงค์จะขนน้ำสุราไปต่างตำบลจะต้องได้รับอนุญาตเสียก่อนจึงจะทำการขนได้ มิใช่ประสงค์ว่า ดำเนินการขนแล้วยังไม่พ้นเขตต์ตำบลไม่ต้องขออนุญาต จึงพิพากษายืน

Share