คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4891/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์แสดงให้เห็นความเป็นมาของการใช้อักษรโรมันคำว่าRENOMA เป็นชื่อทางการค้าของ ช. บิดาของ ม.ประธานกรรมการใหญ่ของโจทก์ตั้งแต่ปี 2480 และการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอักษรโรมันคำดังกล่าวในประเทศฝรั่งเศสในปี 2502 และปี 2509 ตลอดจนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำดังกล่าวในประเทศอื่น ๆในภายหลังและการโอนสิทธิในเครื่องหมายการค้านั้นของ ช. ให้โจทก์ จึงฟังได้ว่าโจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าอักษรโรมันดังกล่าว ที่จำเลยอ้างว่าคิดประดิษฐ์เครื่องหมายการค้าดังกล่าวขึ้นโดยต้องการให้มีความหมายว่า จำเลยไม่มีแม่อีกแล้วนั้น ก็ปรากฏตามคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยว่าจำเลยได้ระบุว่าคำว่า RENOMA เป็นอักษรโรมันอ่านว่ารีโนมา แปลไม่ได้ และปรากฏว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยดังกล่าวมีรูปลักษณะตรงกับรูปลักษณะเครื่องหมายการค้าอักษรโรมันคำว่า RENOMA ซึ่งเป็นตัวพิมพ์เล็กภายในกรอบสี่เหลี่ยมของโจทก์ทุกประการ รวมทั้งลักษณะการเอียงขึ้นของเส้นขวางในตัวอักษร “e” และสัดส่วนของช่องว่างระหว่างตัวอักษรแต่ละตัวด้วยการที่รูปลักษณะเครื่องหมายการค้าของจำเลยตรงกับรูปลักษณะของเครื่องหมายการค้าของโจทก์ทุกประการเช่นนี้ หากจำเลยไม่เคยเห็นเครื่องหมายการค้าดังกล่าวของโจทก์มาก่อน ก็ยากที่เครื่องหมายการค้าของจำเลยจะมีรูปลักษณะตรงกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ทุกประการเช่นนั้น นอกจากนี้เครื่องหมายการค้าของจำเลยดังกล่าวยังคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์คำว่า RENOMAซึ่งเป็นตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็กซึ่งมิได้อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมอีกด้วย ปรากฏว่าจำเลยเคยเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศเช่น สิงคโปร มาเลเซีย ญี่ปุ่น และฮ่องกง และหลังจากโจทก์ได้รับโอนสิทธิในเครื่องหมายการค้าอักษรโรมันคำว่า RENOMA มาจากช.แล้ว โจทก์ได้นำเครื่องหมายการค้าดังกล่าวไปจดทะเบียนไว้ในประเทศต่าง ๆ ประมาณ30 ประเทศ และโจทก์ได้ส่งสินค้าของโจทก์ไปจำหน่ายยังต่างประเทศในทวีป ต่าง ๆ สินค้าของโจทก์มีวางจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าโซโก้ใกล้สถานีรถไฟที่เมืองโกเบประเทศญี่ปุ่น และโจทก์ได้โฆษณาเครื่องหมายการค้าของโจทก์ในนิตยสารและหนังสือต่าง ๆ ในประเทศต่าง ๆทั้งได้มีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ไว้ในประเทศญี่ปุ่น ประเทศสิงคโปร์ และเมืองฮ่องกงด้วยจึงเชื่อได้ว่าจำเลยซึ่งเคยเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นประเทศสิงคโปร์ และเมืองฮ่องกง ได้เห็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์ในระหว่างที่เดินทางไปท่องเที่ยวเช่นนั้นแล้วจำเลยได้นำเครื่องหมายการค้าของโจทก์ตามที่ได้เห็นมานั้นมายื่นขอจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าของจำเลยจึงเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตโจทก์ย่อมมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าอักษรโรมันคำว่า RENOMA ดีกว่าจำเลยและขอให้เพิกถอนทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยได้ เครื่องหมายการค้าอักษรโรมันคำว่า RENOMA ซึ่งเป็นตัวพิมพ์เล็กในกรอบสี่เหลี่ยมของจำเลยมีรูปลักษณะRENOMA ซึ่งเป็นตัวพิมพ์เล็ก ในกรอบสี่เหลี่ยมของโจทก์ทุกประการ แม้กระทั่งลักษณะการเอียงขึ้นของเส้นขวางในตัวอักษร “e” และสัดส่วนของช่องว่างระหว่างตัวอักษรและเครื่องหมายการค้าของจำเลยดังกล่าวยังคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์คำว่า “RENOMA” ซึ่งเป็นตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็กซึ่งมิได้อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมอีกด้วยจึงเห็นได้โดยชัดแจ้งว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยเหมือนกับหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์จนถึงนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชนแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าอักษรโรมันคำว่า RENOMA อ่านว่า รีโนมา ในลักษณะต่าง ๆ ตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 2 โจทก์ได้ใช้และโฆษณาเครื่องหมายการค้าดังกล่าวกับสินค้าหลายประเภทในประเทศต่าง ๆ มานานจนเป็นที่รู้จักแพร่หลาย โจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวไว้ในประเทศต่าง ๆ รวมทั้งประเทศไทย กับใช้คำดังกล่าวเป็นชื่อทางการค้าของโจทก์ด้วย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2531โจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอักษรโรมันคำว่าRENOMA สำหรับสินค้าในจำพวก 50 รายการสินค้าหนังเทียมและของอื่นที่ทำด้วยหนังเทียมและบรรดาสินค้าอื่น ๆ ทั้งมวลซึ่งอยู่ในจำพวกนั้น แต่นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าไม่รับจดทะเบียนให้ อ้างว่าเครื่องหมายการค้าของโจทก์เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าที่จำเลยได้จดทะเบียนไว้ก่อน โจทก์ตรวจสอบจึงทราบว่าจำเลยได้นำเครื่องหมายการค้าอักษรโรมันคำว่า RENOMA ในกรอบรูปสี่เหลี่ยมไปจดทะเบียน สำหรับสินค้าในจำพวก 50 รายการ สินค้าผ้าคลุมเบาะรถยนต์ทำด้วยใบสังเคราะห์ตามคำขอจดทะเบียนเลขที่ 152722 ซึ่งนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้รับจดทะเบียนเป็นทะเบียนเลขที่ 102746 ตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 5 ก่อนจำเลยยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าว จำเลยรู้จักเครื่องหมายการค้าของโจทก์เป็นอย่างดีแล้ว การที่จำเลยนำเครื่องหมายการค้าดังกล่าวไปจดทะเบียนเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตทำให้โจทก์ซึ่งมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าอักษรคำว่าRENOMA ดีกว่าจำเลยไม่สามารถจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ได้ ขอให้พิพากษาว่าโจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าอักษรโรมันคำว่า RENOMA ในลักษณะต่าง ๆทั้งหมดตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 2 แต่เพียงผู้เดียวเครื่องหมายการค้าตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 5ที่จำเลยนำไปจดทะเบียนไว้ตามคำขอจดทะเบียนเลขที่ 152722ทะเบียนเลขที่ 102746 เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ให้จำเลยถอนทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวหากจำเลยไม่ปฏิบัติตาม ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย และห้ามจำเลยใช้หรือเกี่ยวข้องกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์อีก
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ใช่เจ้าของเครื่องหมายการค้าตามฟ้อง โจทก์ไม่ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวในประเทศไทยจำเลยไม่เคยรู้จักเครื่องหมายการค้าในลักษณะต่าง ๆ ของโจทก์มาก่อนเครื่องหมายการค้าของโจทก์และของจำเลยมีลักษณะแตกต่างกันทั้งรูปและตัวอักษรจำเลยคิดประดิษฐ์เครื่องหมายการค้าของจำเลยเพื่อใช้กับสินค้าผ้าคลุมเบาะรถยนต์ทำด้วยใยสังเคราะห์มานานกว่า10 ปี จำเลยได้ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามฟ้องเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2529 และนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้รับจดทะเบียนให้โดยไม่มีผู้ใดโต้แย้งคัดค้านขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า เครื่องหมายการค้าอักษรโรมันคำว่า RENOMA ตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 2 เป็นของโจทก์ให้จำเลยถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเลขที่ 102746หากไม่ปฏิบัติตาม ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย (ที่ถูกน่าจะเป็น ให้เพิกถอนทะเบียนเครื่องหมายการค้าเลขที่ 102746) ห้ามจำเลยใช้หรือเกี่ยวข้องกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์อีกต่อไป
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยในชั้นนี้ตามที่จำเลยฎีกาเป็นข้อแรกว่า โจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าอักษรโรมันคำว่า RENOMA หรือไม่ เห็นว่าโจทก์มีพยานหลักฐานมาสืบให้เห็นความเป็นมาของการใช้อักษรโรมันคำว่า RENOMA เป็นชื่อทางการค้าของนายไซมอน เครพิคกิหรือเครสซีย์ บิดาของนายมอรีช เครสซีย์ประธานกรรมการใหญ่ของโจทก์ตั้งแต่ปี 2480 และการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอักษรโรมันคำดังกล่าวในประเทศฝรั่งเศสในปี 2502 และปี 2509 ตลอดจนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำดังกล่าวในประเทศอื่น ๆ ในภายหลังและการโอนสิทธิในเครื่องหมายการค้านั้นของนายไซมอนให้โจทก์ พยานหลักฐานของโจทก์จึงมีน้ำหนักให้รับฟังได้ส่วนจำเลยคงมีแต่คำเบิกความลอย ๆ ของจำเลยและนายสุวิกุลว่าจำเลยคิดประดิษฐ์เครื่องหมายการค้าคำว่าRENEMA ขึ้นเองแต่ที่จำเลยและนางสุวิกุลเบิกความว่าจำเลยคิดประดิษฐ์เครื่องหมายการค้าดังกล่าวขึ้นโดยต้องการให้มีความหมายว่าจำเลยไม่มีแม่อีกแล้วนั้น ก็ปรากฏตามสำเนาคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเอกสารหมาย จ.1หรือ ล.2 ว่าจำเลยได้ระบุว่า คำว่า RENOMA เป็นอักษรโรมันอ่านว่า รีโนมา แปลไม่ได้คำเบิกความของจำเลยและนางสุวิกุลจึงไม่มีน้ำหนักให้เชื่อถือได้ และเมื่อได้พิเคราะห์เครื่องหมายการค้าอักษรโรมันคำว่า RENOMA ซึ่งเป็นตัวพิมพ์เล็กภายในกรอบสี่เหลี่ยมตามที่จำเลยได้ยื่นคำขอจดทะเบียนและจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้ตามสำเนาคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเอกสารหมาย จ.1 หรือ ล.2 และสำเนาทะเบียนแบบเครื่องหมายการค้าเอกสารหมาย จ.2 หรือสำเนาหนังสือคู่มือรับจดทะเบียนเอกสาร ล.3 แล้ว ก็ปรากฏว่าเครื่องหมายการค้าดังกล่าวมีรูปลักษณะ ตรงกับรูปลักษณะเครื่องหมายการค้าอักษรโรมันคำว่า RENOMA ซึ่งเป็นตัวพิมพ์เล็กภายในกรอบสี่เหลี่ยมของโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.9 รูปที่ 3 ทุกประการรวมทั้งลักษณะการเอียงขึ้นของเส้นขวางในตัวอักษร “e” และสัดส่วนของช่องว่างระหว่างตัวอักษรแต่ละตัวด้วยการที่รูปลักษณะเครื่องหมายการค้าของจำเลยตรงกับรูปลักษณะของเครื่องหมายการค้าของโจทก์ทุกประการเช่นนี้ หากจำเลยไม่เคยเห็นเครื่องหมายการค้าดังกล่าวของโจทก์มาก่อน ก็ยากที่เครื่องหมายการค้าของจำเลยจะมีรูปลักษณะตรงกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ทุกประการเช่นนั้น นอกจากนี้เครื่องหมายการค้าของจำเลยดังกล่าวยังคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์คำว่าRENOMA ซึ่งเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ และตัวพิมพ์เล็กซึ่งมิได้อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมตามเอกสารหมาย จ.9 รูปที่ 1และที่ 2 ตามลำดับอีกด้วย ปรากฏว่าจำเลยเบิกความตอบทนายโจทก์ถามค้านรับว่า จำเลยเคยเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น และฮ่องกงและได้ความตามคำเบิกความของนายบุญมาพยานโจทก์ว่าหลังจากโจทก์ได้รับโอนสิทธิในเครื่องหมายการค้าอักษรโรมันคำว่า RENOMA มาจากนายไซมอนแล้วโจทก์ได้นำเครื่องหมายการค้าดังกล่าวไปจดทะเบียนไว้ในประเทศต่าง ๆ ประมาณ 30 ประเทศ ตามบัญชีรายชื่อในเอกสารหมาย จ.19 และโจทก์ได้ส่งสินค้าของโจทก์ไปจำหน่ายยังต่างประเทศในทวีป ต่าง ๆ พยานเคยเห็นสินค้าของโจทก์วางจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าโซโกใกล้สถานีรถไฟที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ตามภาพถ่ายหมาย จ.27 และ จ.28 และโจทก์ได้โฆษณาเครื่องหมายการค้าของโจทก์ในนิตยสารและหนังสือต่าง ๆ ในประเทศต่าง ๆ ตามเอกสารหมาย จ.23และปรากฏจากเอกสารหมาย จ.19 หน้า 24 ว่า ได้มีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ไว้ในประเทศญี่ปุ่นประเทศสิงคโปร์ และเมืองฮ่องกงด้วย ทั้งปรากฏตามภาพถ่ายหมาย จ.27 และ จ.28 ว่า มีการวางจำหน่ายสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าคำว่า RENOMA ของโจทก์ในห้างสรรพสินค้าโซโก ใกล้สถานีรถไฟเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่นโดยมีการตั้งป้ายชื่อคำว่า RENOMA เป็นตัวพิมพ์เล็กตรงกับรูปลักษณะเครื่องหมายการค้าของโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.9 รูปที่ 3 ไว้ให้เห็นเด่นชัดบนชั้นวางสินค้านั้นจึงเชื่อได้ว่าจำเลยซึ่งรับว่าเคยเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น ประเทศสิงคโปร์และเมืองฮ่องกงได้เห็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์ในระหว่างที่เดินทางไปท่องเที่ยวเช่นนั้น แล้วจำเลยได้นำเครื่องหมายการค้าของโจทก์ตามที่ได้เห็นมานั้นมายื่นขอจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าของจำเลย อันเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักดีกว่าพยานหลักฐานของจำเลยฟังได้ว่าเครื่องหมายการค้าอักษรโรมันคำว่า RENOMA ตามฟ้องเป็นของโจทก์
ส่วนที่จำเลยฎีกาต่อไปในทำนองว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์และจำเลยมีข้อแตกต่างกันไม่อาจเป็นการลวงสาธารณชนได้นั้นเห็นว่าเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ดังได้วินิจฉัยมาข้างต้นแล้วว่า เครื่องหมายการค้าอักษรโรมันคำว่า RENOMA ซึ่งเป็นตัวพิมพ์เล็กในกรอบสี่เหลี่ยมของจำเลยมีรูปลักษณะตรงกับเครื่องหมายการค้าอักษรโรมันคำว่า RENOMA ซึ่งเป็นตัวพิมพ์เล็กในกรอบสี่เหลี่ยมของโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.9 รูปที่ 3ทุกประการแม้กระทั่งลักษณะการเอียงขึ้นของเส้นขวางในตัวอักษร “e” และสัดส่วนของช่องว่างระหว่างตัวอักษรและเครื่องหมายการค้าของจำเลยดังกล่าวยังคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์คำว่า RENOMA ซึ่งเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ และตัวพิมพ์เล็ก ซึ่งมิได้อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมตามเอกสารหมาย จ.9 รูปที่ 1 และรูปที่ 2 อีกด้วยจึงเห็นได้โดยชัดแจ้งว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยเหมือนกันกับหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์จนถึงนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชนแล้ว
พิพากษายืน

Share