แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยได้ประกาศขายทอดตลาดให้ประชาชนทั่วไปทราบแล้ว ทั้งได้แจ้งส่งประกาศขายทอดตลาดให้จำเลยทราบและจำเลยได้มาดูแลขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยด้วยการที่มีโจทก์เข้าประมูลสู้ราคาเพียงคนเดียว ก็มิทำให้การขายทอดตลาดครั้งนี้เสียไป
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้แสดงอาการเคาะไม้เมื่อตกลงขายทรัพย์ให้แก่โจทก์ ซึ่งจำเลยที่มาดูแลการขายก็รู้ว่าได้มีการตกลงขายทรัพย์ให้แก่โจทก์แล้วและจำเลยก็มิได้คัดค้านขณะนั้น แม้แท่งไม้ที่ใช้เคาะเป็นไม้เล็ก ๆ มิได้เกิดเสียงดังมากให้ได้ยินกันทั่วห้องที่ทำการขายทอดตลาดเช่นที่จำเลยฎีกาก็ตาม ก็ถือได้ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีในฐานะผู้ทอดตลาดได้ปฏิบัติชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 509 แล้ว
ระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการบังคับคดีของเจ้าพนักงานบังคับคดีฯ ข้อ 81 กำหนดให้เจ้าพนักงานผู้ขายปักธงเครื่องหมายการขายทอดตลาด ก็ด้วยมีเจตนาที่จะให้บุคคลทั่ว ๆ ไปที่สนใจ จะเข้าประมูลสู้ราคาได้ทราบว่าสถานที่แห่งนั้นมีการขายทอดตลาดทรัพย์สินกันเท่านั้น เมื่อผู้สนใจที่จะเข้าประมูลสู้ราคารู้สถานที่ที่จะทำการขายทอดตลาดดีแล้ว แม้การขายทอดตลาดนั้นผู้ทอดตลาดมิได้ปักธงสัญลักษณ์การขายทอดตลาดก็มิได้หมายความว่า จะทำให้การขายทอดตลาดนั้นต้องเสียไปแต่อย่างใด เพราะระเบียบของกระทรวงยุติธรรม ดังกล่าวมิใช่กฎหมาย ดังนั้น แม้ธงสัญลักษณ์การขายทอดตลาดจะปัก อยู่ ที่หน้าห้องสมุดของศาลซึ่งเป็นคนละอาคารกับสำนักงานบังคับคดี ที่ทำการขายทอดตลาดก็ตามแต่อาคารทั้งสองแห่งก็อยู่ในบริเวณเดียวกัน ทางนำสืบของจำเลยก็ไม่ได้ความว่าการที่ไม่มีธงสัญลักษณ์ปักอยู่ที่ สำนักงานบังคับคดีที่ทำการขายทอดตลาดนั้นเกิดจากเจ้าพนักงานบังคับคดี มีเจตนาทุจริตอย่างไร การอ้างเพียงไม่มีธงสัญลักษณ์ปักไว้ที่ทำการ ขายทอดตลาดเท่านั้น ไม่พอที่จะฟังว่าเจ้าพนักงานบังคับคดี ขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยโดยมิชอบ
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยจำเลยตกลงชำระเงิน 9,476,690.95 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 17.50 ต่อปี ของต้นเงิน 9,116,708.69 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระให้โจทก์เสร็จสิ้น หากจำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้ยอมให้โจทก์บังคับจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 5597 ตำบลห้วยไร่ (บุ่ง) อำเภอเมืองอำนาจเจริญจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินอื่นของจำเลยออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ให้โจทก์จนครบถ้วนแต่จำเลยไม่ยอมชำระหนี้ให้แก่โจทก์ โจทก์จึงขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินที่จำนองพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยโดยประเมินราคา4,100,000 บาท ต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ที่โจทก์นำยึดไปในราคา 6,000,000 บาท
จำเลยยื่นคำร้องและแก้ไขคำร้อง ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด
โจทก์ยื่นคำคัดค้าน ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยชั้นนี้ตามฎีกาของจำเลยว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยให้โจทก์ผู้ซื้อเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยเจตนารมณ์ของบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการขายทอดตลาด และเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 282 ที่จำเลยจะขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้หรือไม่ เห็นว่า การขายทอดตลาดเป็นวิธีการซื้อขายทรัพย์อย่างหนึ่ง ซึ่งต้องกระทำโดยเปิดเผยด้วยการประกาศให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ และให้โอกาสแก่ผู้สนใจได้เข้าประมูลเสนอราคาเพื่อซื้อทรัพย์นั้นได้เท่าเทียมกัน หากผู้ใดประมูลเสนอราคาสูงสุดก็เป็นผู้มีสิทธิที่จะซื้อทรัพย์ที่เสนอขายนั้นได้ถ้าเป็นราคาที่ผู้ทอดตลาดเห็นว่าเหมาะสม ซึ่งในการขายทอดตลาดดังกล่าวนั้นแม้จะมีผู้สนใจเข้าประมูลเสนอราคาเพียงคนเดียว ก็ถือเป็นการขายทอดตลาดโดยชอบแล้ว เพราะมิได้มีบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการขายทอดตลาดกำหนดห้ามไว้ ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าในการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยได้มีการประกาศขายทอดตลาดให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบแล้ว ทั้งได้แจ้งส่งประกาศขายทอดตลาดให้จำเลยทราบและจำเลยยังได้มาดูแลขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยด้วย การที่มีโจทก์เข้าประมูลสู้ราคาเพียงคนเดียว ก็มิทำให้การขายทอดตลาดครั้งนี้เสียไปดังเช่นที่จำเลยฎีกาที่จำเลยฎีกาว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดโดยไม่ระบุจำนวนเงินในช่องว่างของเงื่อนไขในการเข้าสู้ราคาหรือไม่เติมเครื่องหมายขีด (-) อันทำให้ผู้ประสงค์เข้าสู้ราคาและผู้สนใจรายอื่นเสียเปรียบ เนื่องจากเงื่อนไขนั้นเอื้อประโยชน์ให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้รับการยกเว้นไม่ต้องวางหลักประกันนั้นเห็นว่า เมื่อพิจารณาเงื่อนไขในการเข้าสู้ราคาตามประกาศขายทอดตลาดที่ว่า “ผู้ประสงค์จะเข้าสู้ราคา ต้องวางหลักประกันการเข้าสู้ราคาต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นเงินสด หรือแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายสำนักงานบังคับคดีจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นผู้รับเงิน หรือหนังสือค้ำประกันของธนาคารโดยไม่มีเงื่อนไขเป็นจำนวนเงิน บาท (….) มิฉะนั้นจะไม่มีสิทธิลงชื่อเข้าสู้ราคาเว้นแต่ผู้เข้าสู้ราคานั้นเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา” แล้ว เป็นเงื่อนไขที่กำหนดให้บุคคลทั่วไปที่ประสงค์เข้าประมูลสู้ราคาต้องวางหลักประกันต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีไว้ก่อนตามจำนวนที่เจ้าพนักงานบังคับคดีกำหนดไว้ในช่องว่างดังกล่าวนั้น จึงจะทำให้มีสิทธิเข้าประมูลสู้ราคาในการขายทอดตลาดทรัพย์ได้ ดังนั้นการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดครั้งนี้มิได้ระบุจำนวนเงินในช่องว่างของเงื่อนไขการเข้าสู้ราคาหรือไม่ได้เติมเครื่องหมายขีด (-) ไว้ซึ่งมีความหมายอย่างเดียวกันว่า บุคคลทั่ว ๆ ไปที่ประสงค์เข้าประมูลสู้ราคาสามารถที่จะเข้าประมูลสู้ราคาในการขายทอดตลาดทรัพย์ได้เลย โดยไม่จำต้องวางหลักประกันต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีไว้ก่อนเลยเช่นเดียวกับโจทก์ที่เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ถือได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อบุคคลทั่ว ๆ ไปที่ประสงค์จะเข้าประมูลสู้ราคา มิใช่เป็นการทำให้ต้องเสียเปรียบโจทก์ ดังที่จำเลยฎีกาแต่อย่างใด ประกาศขายทอดตลาดเอกสารหมาย ล.2 จึงชอบแล้ว ที่จำเลยฎีกาเกี่ยวกับการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีเคาะไม้ตกลงขายทรัพย์สินให้แก่โจทก์ว่า การ “เคาะไม้” ตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 509 นั้น ต้องปรากฏให้มีเสียงดังได้ยินกันทั่วบริเวณที่มีการขายทอดตลาด แต่เจ้าพนักงานบังคับคดีคงใช้แท่งไม้กลมเล็กยาวประมาณ 1 คืบ ด้านหนึ่งมีหัวกลมเคาะลงบนสมุดที่วางอยู่บนโต๊ะเท่านั้น จึงเป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่า การที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 509 บัญญัติให้ผู้ทอดตลาดต้องมีการเคาะไม้ด้วยก็เป็นเพียงการกำหนดให้ผู้ทอดตลาดได้แสดงอาการอย่างหนึ่งเพื่อให้ผู้เข้าร่วมประมูลรู้ว่าการขายทอดตลาดได้เสร็จบริบูรณ์แล้วด้วยการตกลงขายทรัพย์ให้แก่ผู้ประมูลที่เสนอราคาสูงสุดเท่านั้น ซึ่งจะเห็นได้จากประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 509 นอกจากบัญญัติให้ผู้ทอดตลาดทำการเคาะไม้แล้ว ยังกำหนดให้ผู้ทอดตลาดแสดงกิริยาอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้ผู้เข้าร่วมประมูลสู้ราคาการขายทอดตลาดได้รู้ว่าการขายทอดตลาดเสร็จบริบูรณ์แล้วด้วย ดังนั้น การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้แสดงอาการเคาะไม้เมื่อตกลงขายทรัพย์ให้แก่โจทก์ ซึ่งจำเลยที่มาดูแลการขายก็รู้ว่าได้มีการตกลงขายทรัพย์ให้แก่โจทก์แล้วและจำเลยก็มิได้คัดค้านขณะนั้นแม้แท่งไม้ที่เจ้าพนักงานบังคับคดีใช้เคาะเป็นไม้เล็ก ๆ มิได้เกิดเสียงดังมากให้ได้ยินกันทั่วห้องที่ทำการขายทอดตลาดเช่นที่จำเลยฎีกาก็ตาม ก็ถือได้ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีในฐานะผู้ทอดตลาดได้ปฏิบัติชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 509 แล้วส่วนที่จำเลยฎีกาอีกว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีมิได้ปักธงสัญลักษณ์การขายทอดตลาดจึงทำให้การขายทอดตลาดเป็นไปโดยมิชอบนั้น เห็นว่าการที่มีระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการบังคับคดีของเจ้าพนักงานบังคับคดี พ.ศ. 2522 ข้อ 81 กำหนดให้เจ้าพนักงานผู้ขายปักธงเครื่องหมายการขายทอดตลาดก็ด้วยมีเจตนาที่จะให้บุคคลทั่ว ๆ ไปที่สนใจจะเข้าประมูลสู้ราคาเพื่อซื้อทรัพย์สินที่นำออกขายทอดตลาดตามประกาศขายทอดตลาดได้ทราบว่าสถานที่แห่งนั้นมีการขายทอดตลาดทรัพย์สินกันเท่านั้น เมื่อผู้สนใจที่จะเข้าประมูลสู้ราคารู้สถานที่ที่จะทำการขายทอดตลาดตามประกาศขายทอดตลาดดีแล้ว แม้การขายทอดตลาดนั้นผู้ทอดตลาดมิได้ปักธงสัญลักษณ์การขายทอดตลาดก็มิได้หมายความว่าจะทำให้การขายทอดตลาดนั้นต้องเสียไปแต่อย่างใด เพราะระเบียบของกระทรวงยุติธรรมดังกล่าวมิใช่กฎหมายทั้งทางนำสืบของจำเลยก็ได้ความว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ส่งประกาศขายทอดตลาดคดีนี้ให้จำเลยทราบก่อนแล้ว และจำเลยได้มาอยู่ดูแลการขายทอดตลาดด้วย ดังนั้น แม้ธงสัญลักษณ์การขายทอดตลาดจะปักอยู่ที่หน้าห้องสมุดของศาลจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งเป็นคนละอาคารกับสำนักงานบังคับคดีจังหวัดอำนาจเจริญสถานที่ทำการขายทอดตลาดก็ตาม แต่อาคารทั้งสองแห่งก็อยู่ในบริเวณเดียวกันประกอบกับทางนำสืบของจำเลยก็ไม่ได้ความว่าการที่ไม่มีธงสัญลักษณ์ปักอยู่ที่สำนักงานบังคับคดีจังหวัดอำนาจเจริญสถานที่ขายทอดตลาดนั้นเกิดจากเจ้าพนักงานบังคับคดีมีเจตนาทุจริตอย่างไร การอ้างเพียงไม่มีธงสัญลักษณ์ปักไว้ที่ทำการขายทอดตลาดเท่านั้น ไม่พอที่จะให้ฟังว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยโดยมิชอบ อันจะขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้ตามคำร้อง ที่ศาลล่างทั้งสองยกคำร้องของจำเลยนั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน