คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 489/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การซื้อขายสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีราคาตั้งแต่ห้าร้อยบาทขึ้นไปนั้น หากผู้ขายได้ส่งมอบทรัพย์ที่ซื้อขายให้ผู้ซื้อแล้ว ก็ถือเป็นการชำระหนี้ซึ่งผู้ขายมีสิทธิฟ้องเรียกราคาทรัพย์ได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ และในกรณีเช่นนี้ การตั้งตัวแทนไปซื้อทรัพย์นั้นก็หาต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือไม่
คำว่า ‘บทบัญญัติที่กล่าวมาในวรรคก่อน’ ในวรรคสุดท้ายของ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 นั้น หมายถึงวรรค 2 เกี่ยวกับสัญญาจะซื้อขายหรือคำมั่นจะซื้อขายเท่านั้นไม่เกี่ยวกับบทบัญญัติในวรรค 1

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยตั้งให้นายเสียงเป็นตัวแทนซื้ออิฐไปจากโจทก์20,000 ก้อน ราคา 2,800 บาท โจทก์ส่งมอบอิฐให้แล้ว แต่จำเลยไม่ชำระค่าอิฐ จึงขอให้ศาลบังคับ

จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยมิได้ตั้งนายเสียงเป็นตัวแทน โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะไม่มีหลักฐานการตั้งตัวแทนมาแสดง การซื้อขายอิฐมีราคากว่า 500 บาท โจทก์ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ

ศาลชั้นต้นฟังว่านายเสียงเป็นตัวแทนของโจทก์ การตั้งตัวแทนรายนี้ไม่จำต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ เพราะโจทก์ส่งมอบอิฐทั้งหมดให้นายเสียงหรือจำเลยแล้ว ถือเป็นการชำระหนี้ พิพากษาให้จำเลยชำระค่าอิฐแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการซื้อขายรายนี้แม้จะมีราคาเกิน 500 บาทแต่โจทก์ได้ส่งมอบอิฐทั้งหมดให้นายเสียงตัวแทนของจำเลยแล้วจึงเป็นสัญญาซื้อขายซึ่งได้มีการชำระหนี้แล้ว ไม่จำต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือก็ฟ้องร้องให้บังคับคดีได้

เมื่อการซื้อขายรายนี้ได้มีการส่งมอบอิฐทั้งหมดให้แล้ว การตั้งตัวแทนซื้ออิฐก็ไม่จำต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ

คำว่า “ในวรรคก่อน” ในวรรคสุดท้ายของ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 นั้น หมายถึงวรรค 2 เกี่ยวกับสัญญาจะซื้อขายหรือคำมั่นจะซื้อขายเท่านั้นไม่เกี่ยวกับบทบัญญัติในวรรค 1

พิพากษายืน

Share