คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4886/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ มีเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ที่มิได้ผ่านการตรวจพิจารณาและให้ความเห็นชอบของเจ้าพนักงานผู้ตรวจไว้ในสถานที่ประกอบกิจการของตนเป็นความผิด เทปและวัสดุโทรทัศน์จึงเป็นทรัพย์ที่มีไว้เป็นความผิดและต้องริบตาม ป.อ. มาตรา 32.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการให้เช่าแลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ ได้มีเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ประเภทต่าง ๆ 27 ม้วน ซึ่งเป็นเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ที่มิได้ผ่านการตรวจพิจารณาและให้ความเห็นชอบโดยเจ้าพนักงานไว้ในสถานประกอบกิจการของตน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ และริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530 มาตรา 4, 6, 35(1)จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ2,000 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้ 1 ปี ม้วนเทปของกลางมิใช่ทรัพย์สินที่ทำหรือมีไว้เป็นความผิด จึงไม่ริบ
โจทก์อุทธรณ์ให้ริบม้วนเทปของกลาง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามความในพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530 มาตรา 6, 11 และมาตรา 35 นั้น ผู้ที่จะประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายเทปหรือวัสดุโทรทัศน์โดยทำเป็นธุรกิจ หรือโดยได้ประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการในรูปของค่าธรรมเนียมสมาชิก หรือด้วยวิธีใด ๆ ต้องได้รับอนุญารจากนายทะเบียน นอกจากจะได้รับยกเว้นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง และเทปหรือวัสดุที่จะนำมาประกอบกิจการจะต้องผ่านการตรวจพิจารณาและให้ความเห็นชอบโดยเจ้าพนักงานผู้ตรวจตามกฎหมาย หากผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการมีเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ที่มิได้ผ่านการตรวจพิจารณาและให้ความเห็นชอบโดยเจ้าพนักงานผู้ตรวจตามกฎหมายไว้ในสถานที่ประกอบกิจการของตนต้องมีความผิด และต้องรับโทษ ฉะนั้น เทปหรือวัสดุโทรทัศน์ที่มิได้ผ่านการตรวจพิจารณาและให้ความเห็นชอบโดยเจ้าพนักงานผู้ตรวจตามกฎหมายอยู่ในสถานที่ประกอบกิจการของผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการ ก็เป็นทรัพย์ที่มีไว้เป็นความผิด และต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ริบม้วนเทปของกลาง.

Share