คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 488/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ไม่มีบทกฎหมายใดบัญญัติว่าการรับเด็กซึ่งเป็นบุตรของผู้อื่นมาเลี้ยงเหมือนกับบุตรของตนแล้วถือให้ว่าเป็นบุตรตามกฎหมายของตน
หาก ป.พ.พ.มาตรา 1584 ประสงค์ให้ คู่สมรสของผู้รับบุตรบุญธรรมมีฐานะเป็นผู้รับบุตรก็คงบัญญัติไว้โดยตรงว่าต้องให้คู่สมรสรับบุตรบุญธรรมด้วย การที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าต้องได้รับความยินยอม ก็ย่อมมีความหมายอยู่ในตัวว่ายินยอมให้คู่สมรสอีกฝ่ายรับบุตรบุญธรรมได้ ไม่ใช่ตัวเองเป็นผู้รับบุตรบุญธรรมด้วย และกฎหมายก็ไม่ได้บัญญัติให้คู่สมรสของผู้รับบุตรบุญธรรมมีฐานะเป็นผู้รับบุตรบุญธรรม

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกนางทองคำ วงศาโรจน์ อ้างว่านางทองคำ มีบุตรชื่อนายนันต์ นายนันต์สมรสกับนางทองชมและได้จดทะเบียนรับผู้ร้องเป็นบุตรบุญธรรมทายาทอื่นไม่มี ผู้ร้องจึงเป็นทายาทอันชอบด้วยกฎหมายของนางทองคำ วงศาโรจน์ นางทองคำถึงแก่กรรมและทรัพย์สินถูกบุคคลอื่นเบียดบังยักยอก
เรืออากาศเอกประเสริฐ นางสาวประยูร และนายเพ็ชรยื่นคำร้องคัดค้านว่าผู้ร้องมิใช่ทายาทของนางทองคำ ไม่สมควรเป็นผู้จัดการมรดก
ศาลชั้นต้นฟังว่าผู้ร้องเป็นบุตรบุญธรรมของนางทองชมเท่านั้น จึงมิใช่ทายาทของนางทองคำ และไม่มีส่วนได้เสียในกองมรดก พิพากษาให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่มีบทกฎหมายใดบัญญัติว่าการรับเด็กซึ่งเป็นบุตรของผู้อื่นมาเลี้ยงเหมือนกับบุตรของตนแล้ว ให้ถือว่าเป็นบุตรตามกฎหมายของตน
หาก ป.พ.พ. มาตรา ๑๕๘๔ ประสงค์ให้คู่สมรสของผู้รับบุตรบุญธรรมมีฐานะเป็นผู้รับบุตร ก็คงบัญญัติไว้โดยตรงว่าต้องให้คู่สมรสรับบุตรบุญธรรมด้วย การที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าต้องได้รับความยินยอมก็ย่อมมีความหมายอยู่ในตัวว่ายินยอมให้คู่สมรสอีกฝ่ายรับบุตรบุญธรรมได้ ไม่ใช่ตัวเองเป็นผู้รับบุตรบุญธรรมด้วยและกฎหมายก็ไม่ได้บัญญัติให้คู่สมรสของผู้รับบุตรบุญธรรมมีฐานะเป็นผู้รับบุตรบุญธรรม ผู้ร้องจึงไม่มีฐานะเป็นบุตรบุญธรรมของนายนันต์
พิพากษายืน.

Share